มูลนิธิอีเธอเรียมได้ย้ายอีเธอเรียม(ETH)จำนวน 9,000 เหรียญไปยังวอลเล็ตรายนอกในช่วงเดือนที่ผ่านมา สร้างความสนใจในวงการคริปโตอย่างกว้างขวาง โดยจากข้อมูลล่าสุด พบว่ามีการส่งอีเธอเรียมอีก 1,000 เหรียญ หรือราว 34 ล้านบาท ไปยังวอลเล็ตที่ใช้ระบบ Gnosis Safe Proxy ซึ่งเป็นระบบบริหารจัดการแบบมัลติซิก (Multisignature) จึงมีการ *วิเคราะห์* ว่าไม่ใช่เพียงแค่การขาย แต่เป็นการดำเนินงานในลักษณะสนับสนุนโครงการภายนอก
จากข้อมูลที่เปิดเผยโดยแพลตฟอร์มวิเคราะห์บล็อกเชน Lookonchain เมื่อวันที่ 30 ที่ผ่านมา พบว่ามูลนิธิอีเธอเรียมได้โอน 9,000 อีเธอเรียม คิดเป็นมูลค่าราว 306 ล้านบาท ไปยังวอลเล็ตหนึ่งซึ่งใช้ระบบ Gnosis Safe Proxy ซึ่งมักถูกใช้ในวงการอีเธอเรียมเพื่อเพิ่มความปลอดภัยในการจัดการเงินทุนและใช้สำหรับการบริหารภายในโครงการร่วมกันผ่านการยืนยันจากหลายฝ่าย ซึ่ง *แสดงให้เห็น* ถึงศักยภาพการใช้งานที่ไม่จำกัดแค่กระเป๋าส่วนบุคคล
การเคลื่อนไหวครั้งนี้เกิดขึ้นในช่วงที่ราคาอีเธอเรียมมีความผันผวน โดยร่วงลงถึง 3.7% ก่อนจะฟื้นตัวขึ้นเล็กน้อยที่ 1.62% ส่งผลให้อีเธอเรียมมีราคาซื้อขายอยู่ที่ 2,440 ดอลลาร์ หรือราว 339,000 บาท ณ เวลาปัจจุบัน
ขณะเดียวกัน มูลนิธิอีเธอเรียมยังเร่งเดินหน้าทำกิจกรรมต่าง ๆ ทั้งในแง่เทคนิค การเมือง และกฎหมาย โดย วีทาลิก บูเทอริน(Vitalik Buterin) ผู้ร่วมก่อตั้งอีเธอเรียม เผยว่า มูลนิธิได้มีส่วนร่วมสนับสนุนกองทุนทางกฎหมายเพื่อช่วยเหลือ โรมัน สตอร์ม(Roman Storm) ผู้ร่วมก่อตั้งโปรเจกต์ Tornado Cash ที่ถูกสหรัฐฟ้องร้องในข้อหาหลบเลี่ยงมาตรการคว่ำบาตรและการฟอกเงิน บูเทอรินระบุว่า “มูลนิธิอีเธอเรียมกำลัง *จับคู่การบริจาค* เพื่อสนับสนุนสิทธิในการป้องกันตนเองของเขา”
ในด้านของตลาด ETF อีเธอเรียมมีแนวโน้มเคลื่อนไหวเช่นกัน โดยข้อมูลจาก Lookonchain ณ วันที่ 26 ระบุว่ามีการไหลเข้าสุทธิของสินทรัพย์ในรูปของอีเธอเรียมจำนวน 13,642 เหรียญ หรือราว 464 ล้านบาท โดยกองทุนของแบล็คร็อค(BlackRock) เป็นรายใหญ่ที่สุดที่เข้าซื้อถึง 22,698 ETH ซึ่งมีมูลค่าราว 772 ล้านบาท ทั้งนี้ แบล็คร็อคปัจจุบันถือครองอีเธอเรียมอยู่ที่ประมาณ 1.74 ล้านเหรียญ หรือราว 60,526 ล้านบาท
ความเคลื่อนไหวทั้งหมดนี้บ่งชี้ว่า มูลนิธิอีเธอเรียมกำลังปรับกลยุทธ์การใช้เงินทุนให้ครอบคลุมในทุกมิติของระบบนิเวศ ไม่จำกัดแค่การถือครองหรือจำหน่ายอีเธอเรียม แต่ยังขยายไปสู่การ *สนับสนุนเชิงระบบ* อย่างไรก็ตาม ยังต้องติดตามกันต่อไปว่าเงินทุนเหล่านี้จะถูกนำไปใช้ในลักษณะใดในอนาคต
ความคิดเห็น 0