บิตคอยน์(BTC) กลายเป็นจุดสนใจของนักลงทุนหลังเกิด ‘การล้างพอร์ต’ ครั้งใหญ่ในเวลาเพียง 4 ชั่วโมง โดยมีการล้างโพสิชันฝั่งขาย(short) คิดเป็นมูลค่าสูงถึง 956,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 1,330 ล้านบาท ซึ่งทำให้อัตราส่วนระหว่างผู้ถือโพสิชันซื้อ(long) กับขายพุ่งขึ้นถึง *1,533%* สะท้อน ‘ความมั่นใจ’ ที่เพิ่มขึ้นของผู้ที่เชื่อในแนวโน้มขาขึ้นของบิตคอยน์
บริษัทวิเคราะห์ข้อมูลบล็อกเชนชื่อว่า Coinglass ระบุว่า การล้างโพสิชันรวมทั้งหมดมีมูลค่าอยู่ที่ *102.35 ล้านดอลลาร์สหรัฐ* (ประมาณ 1,420 ล้านบาท) แต่ที่น่าสนใจคือ ฝั่งซื้อถูกล้างไปเพียง 6.38 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 89 ล้านบาท) เท่านั้น ขณะที่โพสิชันฝั่งขายที่ถูกล้างคิดเป็นสัดส่วนส่วนใหญ่ กลายเป็นแรงสนับสนุนที่หนุนราคาบิตคอยน์ในช่วงสั้น
อย่างไรก็ตาม ความได้เปรียบฝั่งซื้ออยู่ได้ไม่นาน ข้อมูลรายชั่วโมงล่าสุดเผยว่า บิตคอยน์กลับมาอยู่ภายใต้แรงกดดัน เมื่อมีการล้างโพสิชันฝั่งซื้ออีก *547,000 ดอลลาร์สหรัฐ* (ประมาณ 76 ล้านบาท) ขณะที่ฝั่งขายถูกล้างเพียง 4,710 ดอลลาร์สหรัฐ (หรือราว 660,000 บาท) เท่านั้น สถานการณ์นี้ตอกย้ำถึง ‘แรงขาย’ ที่เริ่มกลับมาครอบงำ และชี้ว่าตลาดยังเผชิญความไม่แน่นอนอย่างเห็นได้ชัด
ในระหว่างวัน บิตคอยน์เคยพยายามกลับตัวขึ้นจากระดับ *107,000 ดอลลาร์สหรัฐ* (ราว 14.87 ล้านบาท) แต่สุดท้าย ราคาก็ร่วงลงอีก *0.58%* ก่อให้เกิดความเสียหายต่อผู้ที่วางเดิมพันระยะสั้นฝั่งขาขึ้นที่คาดหวังการทะยานของราคา แต่ต้องเผชิญกับการสูญเสียในเวลาไม่นาน
บรรยากาศที่ราคาสวิงแบบรวดเร็วจากการล้างพอร์ตจากฝั่งขายไปฝั่งซื้ออีกครั้ง สะท้อนให้เห็นว่า นักลงทุน ‘ยังไม่มีแนวโน้มที่ชัดเจน’ ต่อทิศทางของบิตคอยน์ในระยะสั้น แม้ว่าจะมีแรงซื้อดันราคาขึ้น แต่การถูกกดดันใกล้แนวต้านเดิมก็ทำให้การวิ่งระยะไกลเป็นไปได้ยาก
‘ขนาดของการล้างพอร์ต’ และ ‘น้ำหนักของโพสิชัน’ ในแต่ละฝั่ง จึงกลายเป็นหนึ่งในตัวชี้วัดที่ผู้เล่นในตลาดควรจับตาเป็นพิเศษ โดยกรณีล่าสุดนี้ถือเป็นตัวอย่างชัดเจนของความเสี่ยงในตลาดคริปโต ที่การวางโพสิชันผิดฝั่งเพียงชั่วครู่ ก็อาจนำไปสู่ *การขาดทุนอย่างรวดเร็ว* ท่ามกลางความผันผวนที่ยังคงสูงอย่างต่อเนื่อง
ความคิดเห็น 0