จำนวนกระเป๋าเงินของนักลงทุน ‘วาฬ’ ที่ถือครองบิตคอยน์(BTC) เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วงไม่กี่วันมานี้ ดึงดูดความสนใจจากตลาดคริปโต โดยข้อมูลจากออนเชนเปิดเผยว่า มีกระเป๋าเงินที่ถือบิตคอยน์มากกว่า 10BTC สูงถึง 152,280 กระเป๋า ซึ่งเป็นสถิติสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมีนาคมที่ผ่านมา ขณะที่นักลงทุนรายย่อยแสดงความกังวลและเริ่มถอยออกจากตลาด นักลงทุนรายใหญ่และสถาบันกลับ ‘เร่งซื้อ’ เข้าสะสมอย่างต่อเนื่อง
แนวโน้มดังกล่าว เกิดขึ้นควบคู่กับกระแสเม็ดเงินที่หลั่งไหลเข้าสู่กองทุน ETF บิตคอยน์แบบสปอตในสหรัฐ โดยเฉพาะ ETF จากผู้จัดการสินทรัพย์รายใหญ่อย่างแบล็ครอก(BlackRock) ซึ่งมียอดเงินทุนไหลเข้าเกิน 1.5 พันล้านดอลลาร์ (ประมาณ 2.08 ล้านล้านวอน) ภายในเวลาเพียง 3 วัน แบล็ครอกเองได้ซื้อบิตคอยน์เพิ่มกว่า 9,400BTC ซึ่งสะท้อนถึงการเข้าซื้ออย่างจริงจังจาก ‘นักลงทุนสถาบัน’ ที่คาดการณ์ราคาในระยะกลางถึงยาว
จากข้อมูลของบริษัทวิจัยตลาด ซานติเมนต์(Santiment) การสะสมบิตคอยน์โดย ‘วาฬ’ สอดคล้องกับกลยุทธ์ที่เรียกว่า ‘สมาร์ตมันนี่’ ซึ่งใช้ช่วงเวลาที่นักลงทุนทั่วไปตื่นตระหนกจากแรงกดดันด้านราคาระยะสั้น มาเป็นโอกาสเข้าซื้อเพื่อสะสม เห็นได้จากการที่ Binance มีการถอนบิตคอยน์มากถึง 4,500BTC ภายในวันเดียวเมื่อต้นเดือน ประกอบกับการฝากเงินสเตเบิลคอยน์เข้าสู่แพลตฟอร์มจำนวน 800 ล้านดอลลาร์ หรือราว 1.11 ล้านล้านวอน
ออนเชนอะนาไลสต์ชื่อ แอ็กเซล แอดเลอร์ จูเนียร์(Axel Adler Jr.) ให้ความเห็นว่า แม้ตลาดเพิ่งมีการทำกำไรสูงถึง 66,000 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 91.74 ล้านล้านวอน) แต่ราคาบิตคอยน์กลับยังทรงตัวอยู่ได้ แสดงให้เห็นถึงแรงซื้อใหม่ที่พยุงราคาท่ามกลางแรงขาย ความต้องการพื้นฐานในตลาดยังคงแข็งแกร่ง
อย่างไรก็ดี ราคาบิตคอยน์ยังเคลื่อนไหวในกรอบจำกัด โดยล่าสุดซื้อขายอยู่ที่ระดับ 107,353 ดอลลาร์ หรือราว 14.92 ล้านบาท ลดลง 2.6% ในรอบสัปดาห์ แม้ว่าในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ราคาจะปรับขึ้น 3.1% ซึ่งเกือบเท่ากับการเพิ่มขึ้นของตลาดรวม 3% ในช่วง 7 วัน แต่ยังไม่สามารถทะลุแนวต้านสำคัญในช่วง 108,000–110,000 ดอลลาร์ได้ ด้านนักวิเคราะห์เทคนิคชื่อ Daan Crypto Trades มองว่าการเบรกทะลุแนวต้านนี้อาจนำไปสู่การสร้าง ‘จุดสูงสุดใหม่ตลอดกาล’ ได้
ในแง่ของส่วนแบ่งตลาด บิตคอยน์ยังคง ‘ครองความเป็นใหญ่’ ด้วยค่า ‘ดอมิแนนซ์’ ที่ 62.8% หลังจากที่พุ่งขึ้นไปแตะระดับสูงสุดที่ 65.7% ในสัปดาห์ก่อน แสดงให้เห็นว่าเม็ดเงินยังคงไหลเข้าสู่บิตคอยน์มากกว่าอัลท์คอยน์ในช่วงเวลานี้
‘คำ’ จากตัวเลขและทิศทางทุกด้าน ชี้ให้เห็นถึงความแข็งแรงของโครงสร้างตลาดในปัจจุบัน สวนทางกับความลังเลของนักลงทุนรายย่อย นักวิเคราะห์มองว่า การที่วาฬและสถาบันสะสมเหรียญอย่างต่อเนื่องเป็น ‘สัญญาณเชิงบวก’ ที่อาจเป็นแรงหนุนสำคัญให้เกิด ‘ขาขึ้น’ ในอนาคตอันใกล้
ความคิดเห็น 0