ฟอง หลี(Phong Le) ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของไมโครสแตรทิจี(MSTR) ได้ขายหุ้นของบริษัทเป็นจำนวนมากในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา โดยข้อมูลปรากฏจากการเปิดเผยของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(SEC) ของสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 18 มิถุนายนที่ผ่านมา หลีขายหุ้นสามัญคลาส A จำนวน 8,400 หุ้น และปัจจุบันเขายังคงถือครองหุ้นประเภทเดียวกันจำนวน 16,390 หุ้นอยู่
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่น่าสนใจคือการขายหุ้นภายในครั้งนี้ไม่ได้จำกัดเฉพาะตัวหลีเพียงคนเดียว แต่ยังรวมถึงกรรมการและผู้บริหารระดับสูงของไมโครสแตรทิจีอีกหลายราย ซึ่งในช่วงเวลาเดียวกันมีการขายหุ้นรวมประมาณ 9.76 ล้านดอลลาร์ หรือราว 135.6 ล้านบาท โดยผู้บริหารที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ ฌานีน มอนต์โกเมอรี(Jeanine Montgomery) รองประธานและหัวหน้าฝ่ายบัญชี, เว่ยหมิ่ง เชา(Wei-Ming Shao) ประธานฝ่ายกฎหมาย, แอนดรูว์ คัง(Andrew Kang) ประธานฝ่ายการเงิน และกรรมการบริษัทชื่อ ริกเคอร์สัน และแพตตัน ซึ่งรายแรกขายหุ้นจำนวน 26,390 หุ้น คิดเป็นมูลค่าประมาณ 9.8 ล้านดอลลาร์ หรือราว 136.2 ล้านบาท ส่วนรายหลังขายหุ้น 9,550 หุ้น เป็นเงินประมาณ 3.5 ล้านดอลลาร์ หรือคิดเป็นกว่า 48.6 ล้านบาท
แม้การขายหุ้นแบบ ‘ต่อเนื่อง’ นี้อาจสร้างความกังวลให้กับนักลงทุนบางกลุ่ม แต่ผู้เชี่ยวชาญมองว่าเหตุการณ์ดังกล่าวอาจเป็นเพียงกลยุทธ์ด้านภาษีหรือการบริหารสภาพคล่องปกติเท่านั้น “ความคิดเห็น” จากนักวิเคราะห์ระบุว่า การขายหุ้นโดยผู้บริหารเป็นครั้งคราวไม่จำเป็นต้องหมายถึงการเปลี่ยนแปลงพื้นฐานของบริษัทแต่อย่างใด
ในด้านราคาหุ้นของไมโครสแตรทิจี ปี 2025 นี้เพิ่มขึ้นแล้วประมาณ 27% สูงกว่าค่าเฉลี่ยของตลาด โดยตลาดมองว่าเป็นผลจากท่าที ‘ลงทุนอย่างเข้มข้น’ ในบิตคอยน์(BTC) ซึ่งปัจจุบันบริษัทถือครองบิตคอยน์ราว 600,000 เหรียญ ถือเป็นความเคลื่อนไหวที่เน้นสกุลเงินดิจิทัลเป็นหัวใจของกลยุทธ์องค์กร
โดยสรุป แม้การขายหุ้นครั้งนี้จะมีมูลค่าและปริมาณมากพอสมควร แต่การประเมินว่าสื่อถึงแนวโน้มเชิงลบของบริษัทอาจยังเร็วเกินไป กลยุทธ์ที่เน้นบิตคอยน์ของไมโครสแตรทิจียังดำเนินต่อ ผู้ลงทุนจึงควรพิจารณาทิศทางในระยะยาวและกระแสของตลาดอย่างรอบด้าน
ความคิดเห็น 0