กระทรวงการคลังสหรัฐฯ ประกาศคว่ำบาตรบริษัทโฮสติ้งสัญชาติรัสเซีย ‘เอซา กรุ๊ป(Aeza Group)’ หลังตรวจพบว่าบริษัทดังกล่าวมีบทบาทในการแพร่กระจายมัลแวร์เรียกค่าไถ่และโปรแกรมขโมยข้อมูลส่วนบุคคล โดยมาตรการนี้ครอบคลุมถึงผู้บริหารของบริษัท กระเป๋าเงินคริปโตที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนบริษัทและบุคคลสำคัญหลายรายที่มีฐานในรัสเซียและสหราชอาณาจักร
เอซา กรุ๊ปให้บริการที่เรียกว่า ‘โฮสติ้งกันกระสุน’ หรือ ‘Bulletproof Hosting’ ซึ่งเป็นบริการที่เปิดให้ผู้กระทำความผิดทางไซเบอร์สามารถใช้โครงสร้างพื้นฐานของบริษัทในการซ่อนเซิร์ฟเวอร์ที่มีไว้สำหรับดำเนินกิจกรรมผิดกฎหมาย กระทรวงการคลังผ่านสำนักงานควบคุมทรัพย์สินต่างประเทศ(OFAC) เปิดเผยเมื่อวันที่ 4 ว่า บริษัทดังกล่าวมีส่วนสนับสนุนการกระจายแรนซัมแวร์และการขโมยข้อมูลลับด้วยการให้บริการด้านเซิร์ฟเวอร์และเครือข่าย
หนึ่งในเป้าหมายของการคว่ำบาตรครั้งนี้รวมถึงกระเป๋าเงินคริปโตที่มีมูลค่าประมาณ *350,000 ดอลลาร์สหรัฐ* (ราว *4.86 ล้านบาท*) ซึ่ง OFAC ระบุว่าเป็นเครื่องมือที่ถูกใช้ในการก่ออาชญากรรมทางไซเบอร์โดยตรง นอกจากนี้ มาตรการยังครอบคลุมไปถึงชาวรัสเซีย 4 รายซึ่งเชื่อว่าเป็นเจ้าของหรือผู้บริหารของเอซา กรุ๊ปอีกด้วย
ในเวลาเดียวกัน *ผู้ใช้งานคริปโต* กลายเป็นเป้าหมายหลักของแรนซัมแวร์และมัลแวร์ขโมยข้อมูล ซึ่งเป็นอีกหนึ่งแรงจูงใจของมาตรการนี้ บริษัทด้านความปลอดภัยบนบล็อกเชนอย่าง *เซอร์ติค(CertiK)* เปิดเผยว่า ตั้งแต่เริ่มต้นปี 2025 มีเหตุการณ์ลักขโมยคริปโตเกิดขึ้นรวมมูลค่ากว่า *2.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ* (ราว *2.91 หมื่นล้านบาท*) โดยส่วนใหญ่เกิดจากการโจรกรรมคีย์ของกระเป๋าเงินผ่านกลวิธีอย่างฟิชชิ่ง
ในช่วงที่ความขัดแย้งทางไซเบอร์ระหว่างสหรัฐฯ และรัสเซียทวีความรุนแรงมากขึ้น การดำเนินนโยบายต่างประเทศด้านรัสเซียของประธานาธิบดีทรัมป์ก็มีบทบาทสำคัญในทิศทางมาตรการคว่ำบาตรของรัฐบาลสหรัฐฯ ด้วย ขณะที่ความวิตกเกี่ยวกับการใช้คริปโตเคอร์เรนซีเพื่อสนับสนุนกิจกรรมผิดกฎหมายอย่างเช่น แรนซัมแวร์และตลาดมืดยังคงเพิ่มขึ้น จึงมีแนวโน้มว่ารัฐบาลสหรัฐฯ จะเดินหน้า *เพิ่มความเข้มงวดของกฎระเบียบและการปราบปราม* อย่างต่อเนื่อง
ความคิดเห็น 0