ประธานาธิบดีฮาเวียร์ มิเลย์(Javier Milei) ของอาร์เจนตินากำลังเผชิญกับกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก หลังจากที่สกุลเงินดิจิทัล 'ลิบรา(LIBRA)' ซึ่งเขาเคยให้การสนับสนุนล่มสลายลง ทำให้มูลค่าตลาดหายไปมากถึง 4 ล้านล้านวอน (ประมาณ 110,000 ล้านบาท) เหตุการณ์นี้ส่งผลให้เขาต้องเผชิญกับแรงกดดันทางการเมืองอย่างหนัก และอาจนำไปสู่กระบวนการถอดถอนออกจากตำแหน่ง
ตามข้อมูลจากกระดานเทรดคริปโต 'จูปิเตอร์(Jupiter)' การเปิดตัวของโทเคนลิบราเป็นที่รู้กันในหมู่ผู้ลงทุนในเหรียญมีม(Memecoin) มานานกว่าสองสัปดาห์ อย่างไรก็ตาม หลังจากที่โทเคนเปิดตัวได้เพียง 3 ชั่วโมง สภาพคล่องมูลค่า 107 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 1,540 ล้านบาท) ก็ถูกถอนออกจากวอลเล็ทภายใน ทำให้ราคาของโทเคนดิ่งลงถึง 94% ผลการวิเคราะห์เพิ่มเติมพบว่ามีบัญชีวอลเล็ทภายในทั้งหมด 8 บัญชีที่ทำการขายเหรียญเป็นจำนวนมาก ซึ่งเป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้ราคาทรุดตัวลงในทันที
ในแถลงการณ์อย่างเป็นทางการ จูปิเตอร์ระบุว่าบริษัทได้รับทราบแผนการเปิดตัวจาก Kelsier Ventures ล่วงหน้า แต่ไม่ได้ตรวจพบพฤติกรรมการซื้อขายภายในที่ผิดปกติ นอกจากนี้ บริษัทวิเคราะห์ข้อมูลบล็อกเชน 'บับเบิลแมปส์(Bubblemaps)' เคยเตือนถึงจุดอ่อนในกลไกของโทเคนลิบรา โดยข้อมูลจากบับเบิลแมปส์ชี้ให้เห็นว่า 82% ของอุปทานทั้งหมดของโทเคนสามารถถูกปล่อยออกสู่ตลาดได้ตั้งแต่ต้น ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่นำไปสู่การร่วงลงของราคาในครั้งนี้
ประธานาธิบดีมิเลย์ได้ปฏิเสธอย่างหนักแน่นว่าเขาไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ดังกล่าว และได้ร้องขอให้ ‘สำนักงานต่อต้านคอร์รัปชันของอาร์เจนตินา(Anti-Corruption Office)’ ทำการตรวจสอบเจ้าหน้าที่รัฐบาลทั้งหมด อย่างไรก็ตาม ฝ่ายตรงข้ามทางการเมืองของเขากลับกล่าวหาว่านี่เป็นกรณีของ 'มีมโทเคนรั๊กพูล(Rug Pull)' และกำลังผลักดันให้เกิดกระบวนการถอดถอนเขาออกจากตำแหน่ง
ในขณะเดียวกัน การเปิดตัวโทเคนที่เกี่ยวข้องกับบุคคลสำคัญยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ล่าสุด 'ประธานาธิบดีทรัมป์' และอดีตสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่ง เมลาเนีย ทรัมป์ ได้เปิดตัวโทเคนของตัวเองที่มีชื่อว่า ‘ทรัมป์(TRUMP)’ และ ‘เมลาเนีย(MELANIA)’ ซึ่งเคยได้รับความสนใจจากนักลงทุน แต่ในปัจจุบันราคาของทั้งสองเหรียญได้ลดลงอย่างมาก โดยทรัมป์โทเคนร่วงจากจุดสูงสุดมาแล้ว 76% ส่วนเมลาเนียโทเคนลดลงถึง 90%
ผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมเชื่อว่าเหตุการณ์ลิบราจะเป็นตัวอย่างที่ตอกย้ำถึงความเสี่ยงของตลาดมีมโทเคน และเตือนให้นักลงทุนใช้ความระมัดระวังมากขึ้นเมื่อลงทุนในโครงการที่อิงกับชื่อเสียงของบุคคลสำคัญ
ความคิดเห็น 0