รัฐบาลปากีสถานต้องล้มเลิกแผนการส่งเสริมอุตสาหกรรมเหมืองคริปโต หลังจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ(IMF)ไม่เห็นชอบต่อข้อเสนอให้ใช้กำลังการผลิตไฟฟ้าส่วนเกินในช่วงฤดูหนาวเพื่อรองรับอุตสาหกรรมพลังงานสูงอย่าง *บิตคอยน์(BTC)* โดยให้เหตุผลว่าอาจบิดเบือนกลไกตลาดและเพิ่มภาระให้แก่ระบบพลังงานที่เปราะบางอยู่แล้ว
เมื่อวันที่ 24 ตามรายงานของ Independent Urdu, ฟาฮ์เร อาลัม เอียร์ฟาน(Fakhre Alam Irfan) รองปลัดกระทรวงพลังงานของปากีสถานได้ให้ข้อมูลต่อคณะกรรมาธิการพลังงานแห่งวุฒิสภาว่า IMF ได้แสดงจุดยืนคัดค้านแผนการแทรกแซงโครงสร้างราคาค่าไฟฟ้าเพื่อนำร่องส่งเสริมภาคอุตสาหกรรมคริปโต โดยชี้ว่าการดำเนินนโยบายด้านพลังงานของประเทศจำเป็นต้องได้รับความเห็นชอบจาก IMF ก่อนเสมอ
ในเดือนพฤศจิกายน 2024 กระทรวงพลังงานปากีสถานได้ยื่นข้อเสนอให้จัดจำหน่ายไฟฟ้าในราคาถูก สำหรับอุตสาหกรรมพลังงานเข้มข้น อาทิ โรงถลุงทองแดง ศูนย์ข้อมูล และบริษัทขุดคริปโต โดยเสนอราคาค่าไฟอยู่ที่ 22~23 รูปีต่อกิโลวัตต์ชั่วโมง (ราว 111~116 วอน หรือประมาณ 0.08 ดอลลาร์สหรัฐ) ซึ่งคิดเป็นค่าไฟฟ้าระดับต่ำเมื่อเทียบกับอุตสาหกรรมทั่วไป
รัฐบาลตั้งเป้าว่า นโยบายราคานี้จะช่วยเพิ่มอุปสงค์ไฟฟ้าในภาคอุตสาหกรรม พร้อมแก้ปัญหาไฟฟ้าล้นระบบในฤดูหนาว แต่ ‘IMF’ มองว่าแผนดังกล่าวอาจสร้าง ‘ความสับสน’ ในโครงสร้างตลาด และกระทบต่อความมั่นคงด้านพลังงานในระยะยาว
ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ปากีสถานต้องเผชิญปัญหาขาดแคลนไฟฟ้าบ่อยครั้ง และเกิดหนี้สะสมจากภาคเอกชนรุนแรงจนการปฏิรูประบบพลังงานกลายเป็นวาระเร่งด่วน โดยประเทศอยู่ภายใต้กรอบการกำกับดูแลของ ‘IMF’ ทำให้ทุกนโยบายด้านเศรษฐกิจต้องได้รับการตรวจสอบเพื่อรักษาเสถียรภาพการคลังและความโปร่งใสของตลาด
*ความคิดเห็น*: ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่าหากปากีสถานดึงดันเดินหน้าสนับสนุนอุตสาหกรรมเหมืองคริปโตโดยไม่สนคำแนะนำของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ อาจเสี่ยงต่อการถูกตัดการสนับสนุนทางการเงินเพิ่มเติมจาก IMF ได้ ดังนั้นยุทธศาสตร์ส่งเสริม ‘บล็อกเชน’ ที่อิงกับศักยภาพพลังงานของประเทศจึงติดกำแพงของระเบียบการเงินโลกเข้าอย่างจัง
ความคิดเห็น 0