หน่วยราชการลับสหรัฐฯ (US Secret Service) ได้ยึดทรัพย์สินดิจิทัลอย่างเงียบๆ รวมมูลค่ากว่า 400 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 5,560,000,000 บาทในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา โดยทรัพย์สินส่วนใหญ่ถูกจัดเก็บไว้ในกระเป๋าเงินเย็นเดียว ซึ่งนับว่าเป็นหนึ่งในกระเป๋าเงินคริปโตที่ใหญ่ที่สุดในโลก ตามรายงานของ Bloomberg เมื่อวันที่ 6 (เวลาท้องถิ่น)
หน่วยข่าวกรองทางอาชญากรรมระดับโลก (Global Investigative Operations Center: GIOC) ซึ่งเป็นหน่วยงานย่อยภายใต้หน่วยราชการลับ ได้ใช้เครื่องมือโอเพ่นซอร์ส การวิเคราะห์บล็อกเชน และการติดตามอย่างต่อเนื่องในการตรวจสอบเส้นทางทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องกับอาชญากรรม เจมี แลม(Jamie Lam) นักวิเคราะห์ของหน่วยงานดังกล่าว เปิดเผยข้อมูลนี้ระหว่างการประชุมเจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายที่เบอร์มิวดาเมื่อเดือนที่ผ่านมา โดยเน้นย้ำว่า ‘ความอดทน’ คือปัจจัยสำคัญที่สุดในการสืบสวน
คริปโตเคอร์เรนซีที่หน่วยราชการลับสหรัฐฯ ยึดได้นั้น ส่วนมากมาจากการปราบปรามคดีหลอกลงทุน ซึ่งมักใช้วิธีการชวนเหยื่อเข้าสู่แพลตฟอร์มการลงทุนคริปโตที่ดูน่าเชื่อถือ แสดงกำไรเบื้องต้นเพื่อหลอกให้โอนเงินเข้า จากนั้นแพลตฟอร์มก็จะปิดตัวหายไปทันที นอกจากนี้ยังมีการใช้ภาพบุคคลที่ดูดีน่าเชื่อถือเป็นเหยื่อล่อเพื่อเข้าถึงทางอารมณ์ของผู้เสียหาย
“นั่นแหละคือวิธีของพวกเขา” แลมกล่าว “พวกเขาอาจส่งภาพชายหล่อหรือหญิงสาวหน้าตาดีมาให้ แต่จริงๆ แล้วอาจเป็นผู้ชายแก่ในรัสเซียก็ได้”
หน่วยราชการลับยังคงขยายเครือข่ายความร่วมมือระหว่างประเทศเพื่อเสริมศักยภาพในการรับมืออาชญากรรมไซเบอร์ พร้อมกันนี้ เมื่อมูลค่าทรัพย์สินที่ถูกยึดเพิ่มขึ้น ความสามารถในการยับยั้งอาชญากรรมและสร้างความตระหนักรู้ก็เพิ่มมากขึ้นเช่นกัน ความแม่นยำในการติดตามและการเก็บหลักฐานดิจิทัลถูกมองว่าเป็นหัวใจสำคัญของการปราบปรามอาชญากรรมคริปโต โดยที่แนวทางของหน่วยราชการลับอาจกลายเป็น ‘กรณีศึกษา’ สำหรับหน่วยงานด้านความมั่นคงอื่นๆ ทั่วโลก
‘คริปโตเคอร์เรนซี’ ยังคงเป็นสนามต่อสู้ระหว่างเทคโนโลยีกับอาชญากรรม และระดับความซับซ้อนของการหลอกลวงในโลกดิจิทัล ยิ่งทำให้การตอบสนองต้องรวดเร็วและแม่นยำยิ่งขึ้น
ความคิดเห็น 0