สเตลลาร์(XLM) พุ่งขึ้น 5% ภายใน 24 ชั่วโมง แซงหน้า *ริปเปิล(XRP)* ดึงดูดความสนใจจากนักลงทุนในตลาดคริปโต โดยทั้งสองเหรียญซึ่งเคลื่อนไหวในทิศทางเดียวกันมานานเนื่องจากกรณีใช้งานในด้าน *การชำระเงินข้ามพรมแดน* กลับมีผลตอบแทนสวนทางกันในรอบนี้
เมื่อวันที่ 7 ช่วงเช้า สเตลลาร์ปรับตัวขึ้นแตะระดับ 0.25 ดอลลาร์ (ประมาณ 348 บาท) หรือคิดเป็นการเพิ่มขึ้น 5% ภายใน 24 ชั่วโมง ขณะที่ราคาของริปเปิลเพิ่มขึ้นเพียง 0.59% มาอยู่ที่ 2.28 ดอลลาร์ (ประมาณ 3,169 บาท) ช่องว่างระหว่างผลตอบแทนดังกล่าวทำให้นักวิเคราะห์มองว่า อาจเกิดการโยกย้ายเงินทุนภายในตลาด *อัลต์คอยน์* โดยมีการตีความว่าบางส่วนของนักลงทุนหันมาปักใจถือ *สเตลลาร์* เพื่อรอรับคลื่นขาขึ้นรอบใหม่
ที่ผ่านมา สเตลลาร์เคลื่อนไหวฟื้นตัวจากระดับต่ำสุดเมื่อวันที่ 1 ที่ 0.222 ดอลลาร์ (ประมาณ 309 บาท) โดยเฉพาะวันที่ 5 และ 6 ที่ผ่านมาซึ่งมีการพุ่งขึ้นแรง จนแตะระดับสูงสุดในวันระหว่างที่ 0.254 ดอลลาร์ (ประมาณ 354 บาท) อย่างไรก็ตาม หากอิงตามกราฟรายวัน สเตลลาร์ยังไม่สามารถทะลุเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 50 วัน (SMA) ที่บริเวณ 0.26 ดอลลาร์ (ประมาณ 361 บาท) ได้ แต่หากทะลุแนวต้านดังกล่าว ก็อาจถือเป็น ‘จุดเปลี่ยนเชิงเทคนิค’ ที่สำคัญได้ นอกจากนี้ยังมีการคาดการณ์ว่าเส้น SMA ระยะยาวอย่าง 200 วัน ที่อยู่ที่ 0.307 ดอลลาร์ (ประมาณ 427 บาท) อาจเป็นเป้าหมายถัดไปในกรอบกลาง–ยาว
ฝั่งของ *ริปเปิล* เองก็มีข่าวบวกทางเทคนิคเช่นกัน โดยล่าสุดมีการเปิดเผยว่า ตลาดคริปโตรายใหญ่ที่สุดในบราซิลอย่าง *เมอร์คาโดบิตคอยน์* กำลังดำเนินการนำทรัพย์สินจริงมูลค่ากว่า 200 ล้านดอลลาร์ (ราว 2,780 ล้านบาท) ขึ้นทะเบียนแบบ *ออนเชน* บนเครือข่าย *XRP เลดเจอร์* อีกทั้ง บริษัทริปเปิลยังยื่นขอใบอนุญาตประกอบการธนาคารกลางจาก *สำนักงานควบคุมสกุลเงินสหรัฐฯ (OCC)* เพื่อเสริมความแข็งแกร่งด้านกฎระเบียบ
แม้จะมีพัฒนาการเชิงบวกเหล่านี้ ตลาดยังคงมองว่าราคาของริปเปิลจะต้องมีปริมาณซื้อที่เข้มแข็งมากขึ้น จึงจะสามารถทะลุแนวต้านที่ 2.50 ดอลลาร์ (ประมาณ 3,475 บาท) ได้อย่างมั่นคง ปัจจุบันยังเคลื่อนไหวอยู่ในแดนไซด์เวย์เหนือระดับ 2.20 ดอลลาร์ (ประมาณ 3,058 บาท) ซึ่งมีแนวโน้มที่การพลิกกลับของราคาในระยะสั้นจะยังจำกัด
การปรับตัวขึ้นของสเตลลาร์ครั้งนี้ อาจสะท้อนมากกว่าการรีบาวด์ทางเทคนิค แต่เป็น *สัญญาณทางจิตวิทยา* ที่แสดงถึงความเชื่อมั่นของตลาดบางส่วน หากตลาดคริปโตในภาพรวม โดยเฉพาะ *บิตคอยน์(BTC)* กลับเข้าสู่ช่วงขาขึ้นอีกครั้ง ก็มีความเป็นไปได้ที่ *สเตลลาร์และอัลต์คอยน์อื่น ๆ* จะได้เห็นการไหลเวียนของเม็ดเงินเข้ามาอย่างชัดเจนมากขึ้นในรอบถัดไป
ความคิดเห็น 0