ความสนใจจากนักลงทุนสถาบันต่ออีเธอเรียม(ETH)กลับมาอีกครั้ง หลังข้อมูลจาก Glassnode ผู้ให้บริการข้อมูลออนเชนเผยว่า ในช่วง 8 สัปดาห์ที่ผ่านมา ‘อีเธอเรียมสปอต ETF’ มีมูลค่าการไหลเข้าสุทธิอย่างต่อเนื่อง คิดเป็นจำนวนทั้งสิ้น 61,000 อีเธอเรียม(ETH) หรือราว 2,153 พันล้านวอนตามอัตราแลกเปลี่ยนปัจจุบัน
โดยเฉพาะในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา นักลงทุนสถาบันในสหรัฐมีการไหลเข้าสุทธิเข้าสู่ ETF อีเธอเรียมรวม 24,968 ETH หรือประมาณ 883 พันล้านวอน ข้อมูลจาก Lookonchain ระบุว่า ‘ฟิเดลิตี’ เป็นผู้จัดการรายใหญ่ที่สุดในกระแสดังกล่าว โดยถือครองอีเธอเรียมรวมทั้งสิ้น 523,594 ETH หรือประมาณ 1.85 ล้านล้านวอน
การไหลเข้าของเงินทุนอย่างต่อเนื่องและการเข้ามาของผู้เล่นระดับสถาบันทำให้ภาพรวมตลาดเริ่มเปลี่ยนแปลงไปในทางบวก รายงานจาก CoinShares สัปดาห์ที่ผ่านมาเผยว่า มีเงินทุนไหลเข้าสู่สินทรัพย์คริปโทโดยรวมกว่า 1.04 พันล้านดอลลาร์ (ประมาณ 1.44 ล้านล้านวอน) โดยในจำนวนนี้ 226 ล้านดอลลาร์ หรือกว่า 3,141 พันล้านวอน มาจากสินค้าการลงทุนในอีเธอเรียมเพียงอย่างเดียว คิดเป็น 1.6% ของสินทรัพย์ภายใต้การบริหารทั้งหมด เทียบกับบิตคอยน์(BTC)ซึ่งอยู่ที่ 0.8% ในช่วงเวลาเดียวกัน
นักวิเคราะห์มองว่า แนวโน้มนี้สะท้อนถึงการเปลี่ยนแปลงในกลยุทธ์ของนักลงทุนสถาบัน จากเดิมที่เน้นบิตคอยน์เป็นหลัก หันมาให้น้ำหนักในอีเธอเรียมมากขึ้น โดยเฉพาะในช่วงที่บิตคอยน์ทำสถิติราคาสูงสุดใหม่ นักลงทุนบางส่วนเริ่มพิจารณาการทำกำไร ในขณะที่อีเธอเรียมยังถูกประเมินว่ามี *ศักยภาพเติบโตสูง* ด้วยความสามารถด้าน ‘สเกลลิง’ และ ‘สมาร์ตคอนแทรกต์’
อีกหนึ่งความเคลื่อนไหวสำคัญ คือธนาคาร BBVA ซึ่งเป็นธนาคารขนาดใหญ่ของสเปน เตรียมให้บริการซื้อ-ขายและเก็บรักษาบิตคอยน์และอีเธอเรียมแก่ลูกค้าทั่วไป ผ่านช่องทางแอปพลิเคชันมือถือ ซึ่งแสดงให้เห็นว่า ‘อีเธอเรียม’ กำลังเริ่มมี ‘บทบาทในระบบการเงินดั้งเดิม’ มากขึ้น
ด้านบริษัทเหมืองคริปโท BitDigital รายงานว่าได้ขายบิตคอยน์บางส่วนเพื่อเปลี่ยนมาถือครองอีเธอเรียมจำนวน 100,603 ETH พร้อมประกาศแผนจัดหาเงินทุนเพิ่มเติมอีก 172 ล้านดอลลาร์ หรือราว 2,389 พันล้านวอน เพื่อก้าวขึ้นเป็นหนึ่งในบริษัทที่ถือครองอีเธอเรียมระดับแนวหน้า
จากการไหลเข้าสะสมอย่างต่อเนื่อง การเข้ามาของสถาบันการเงินรายใหญ่ และการปรับพอร์ตของหลายองค์กรทั่วโลก ตลาดรอบอีเธอเรียมกำลังอยู่ในภาวะเปลี่ยนผ่านอย่างรวดเร็ว และ ‘ความคิดเห็น’ จากผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่าการเคลื่อนไหวเหล่านี้จะส่งผลต่อตัวราคาของอีเธอเรียมและโครงสร้างตลาดคริปโตในระยะยาวอย่างมีนัยสำคัญ
ความคิดเห็น 0