เหรียญเสถียรที่มีหลักประกันเกินมูลค่าอย่าง ฟัลคอนUSD(USDF) ซึ่งออกโดยโปรโตคอลการเงินแบบกระจายอำนาจ ฟัลคอนไฟแนนซ์(Falcon Finance) ร่วงต่ำกว่าราคาคงที่ 1 ดอลลาร์เมื่อวันที่ 18 ส่งผลให้เกิดความกังวลในหมู่นักลงทุนเกี่ยวกับ *คุณภาพของสินทรัพย์ค้ำประกัน* และ *สภาพคล่องในตลาดโดยรวม*
ตามข้อมูลจาก CoinMarketCap ฟัลคอนUSD เคยร่วงลงไปแตะระดับ 0.9783 ดอลลาร์ในช่วงเช้าวันเดียวกัน ซึ่งการผันผวนนี้กลายเป็นประเด็นร้อนทันทีในแวดวงดีไฟ โดยมีผู้เล่นในอุตสาหกรรมบางรายตั้งคำถามต่อ *โครงสร้างหลักประกันและการกำกับดูแลระบบ*
อเล็กซ์ ออบชาเควิช(Alex Obchakevich) ผู้ก่อตั้งบริษัทวิจัยคริปโต Obchakevich Research ให้สัมภาษณ์กับ Cointelegraph ว่า “สถานการณ์ตอนนี้น่าเป็นห่วงอย่างยิ่ง” พร้อมระบุว่า *ความไม่มั่นใจในสินทรัพย์ค้ำประกัน* ได้ส่งผลต่อ *ความเชื่อมั่นของนักลงทุน* อย่างรุนแรง
ฟัลคอนUSD แตกต่างจาก USDC หรือ เทเธอร์(USDT) ซึ่งมีทุนสำรองเป็นเงินตราปกติเพื่อหนุนมูลค่า โดยฟัลคอนUSD ใช้ *คริปโตเคอร์เรนซีที่มีความผันผวนสูง* เป็นหลักประกันแทน ทำให้มีโอกาสเสี่ยงต่อการสูญเสียมูลค่าเมื่อสภาวะตลาดเปลี่ยนแปลง
แพลตฟอร์มวิเคราะห์ข้อมูลบล็อกเชน พาร์เซก(Parsec) รายงานว่า *สภาพคล่องบนเครือข่ายของฟัลคอนUSD ลดลงอย่างเห็นได้ชัด* โดยอยู่ที่ประมาณ 5.51 ล้านดอลลาร์ หรือราว 76.6 ล้านบาทในขณะนี้
ออบชาเควิชกล่าวเพิ่มเติมว่า “ข้อมูลบล็อกเชนสะท้อนว่าสภาพคล่องหดหายไปอย่างรวดเร็ว ซึ่งยิ่งตอกย้ำ *ความไม่มั่นคงในตลาด* ให้เด่นชัดขึ้น”
เหตุการณ์นี้ทำให้เกิดคำถามใหม่อีกครั้งเกี่ยวกับ *เสถียรภาพของเหรียญสเตเบิลที่มีหลักประกันเกินมูลค่า* ในโลกของดีไฟ เนื่องจากราคาของสินทรัพย์ค้ำประกันมีผลโดยตรงต่อมูลค่าของเหรียญ การเปิดเผยข้อมูลโครงสร้างการจัดเตรียมหลักประกันและแนวทางบริหารความเสี่ยงจึงเป็นสิ่งจำเป็นมากยิ่งขึ้นในช่วงเวลานี้
ความคิดเห็น 0