บิตคอยน์(BTC) พุ่งทะลุ 111,000 ดอลลาร์ หรือราว 15.4 ล้านบาท เดินหน้าท้าทายจุดสูงสุดตลอดกาลอีกครั้ง โดยห่างจากระดับสูงสุดเดิมที่ 112,000 ดอลลาร์เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคมเพียง 1,000 ดอลลาร์เท่านั้น ทำให้นักลงทุนกลับมาคาดหวังอย่างมีนัยสำคัญ
เมื่อวันที่ 9 (เวลาท้องถิ่น) บิตคอยน์ในตลาดซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลระดับโลก บิทสแตมป์(Bitstamp) พุ่งแตะระดับสูงสุดระหว่างวันที่ 111,052 ดอลลาร์ หรือประมาณ 15.44 ล้านบาท เสริมแรงเชิงบวกให้กับแนวโน้มขาขึ้นอย่างต่อเนื่อง ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม บิตคอยน์ก็พยายามขึ้นไปแตะระดับเดียวกันแต่ถูกแรงขายกดดัน อย่างไรก็ตาม ครั้งนี้ราคาปรับขึ้นจาก *กระแสเงินทุนจาก ETF* และ *ความต้องการซื้อจากนักลงทุนสถาบัน* ที่เพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน
การปรับตัวขึ้นของบิตคอยน์ในรอบนี้ยังเชื่อมโยงกับการ ‘ชอร์ตสั้น’ หรือการปิดสถานะขายล่วงหน้าอย่างรวดเร็ว โดยตามข้อมูลจาก CoinGlass แพลตฟอร์มวิเคราะห์อนุพันธ์ พบว่าในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา มีสถานะขายออกมูลค่าสูงกว่า 187 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 2,599 ล้านบาท) ถูกปิดออก ซึ่งสะท้อนถึงภาวะที่แรงซื้อเร่งให้หลายฝ่ายต้องรีบปิดสถานะเพื่อป้องกันความเสี่ยง
ปัจจัยขับเคลื่อนหลักยังคงอยู่ที่การไหลเข้าของเงินทุนสู่ ETF บิตคอยน์แบบสปอต ที่เป็นรูปธรรมมากขึ้น โดยเฉพาะภายใต้นโยบายเปิดรับสินทรัพย์ดิจิทัลของรัฐบาล *ทรัมป์* และการขยับตัวของภาคเอกชนที่ยอมรับบิตคอยน์ในระดับองค์กร ทำให้ภาพรวมของการรับรองเชิงสถาบันยิ่งแข็งแรง ETF ที่บริหารโดยกองทุนยักษ์ใหญ่อย่าง *แบล็คร็อค(BlackRock)* และ *ฟิเดลิตี้(Fidelity)* ยังคงมีเงินทุนไหลเข้าอย่างต่อเนื่อง ช่วยเสริมความมั่นใจให้กับนักลงทุน
นอกจากนี้ การที่ *นักลงทุนสถาบันเดินหน้าเพิ่มสัดส่วนลงทุนในบิตคอยน์* ยังสะท้อนโอกาสในการเติบโตระยะยาว มากกว่าการฟื้นตัวแบบชั่วคราว มีความเห็นจากตลาดว่า บิตคอยน์เริ่มถูกยอมรับในฐานะ ‘เครื่องมือเก็บมูลค่า’ ในระดับโลก มากกว่าจะเป็นเพียงแค่สินทรัพย์ดิจิทัลทางเลือก
ด้านนักวิเคราะห์ก็เริ่มแสดงความหวังแบบระมัดระวัง โดย เจมส์ เบนเน็ตต์(James Bennett) นักวิเคราะห์ด้านคริปโตฯ เปิดเผยว่า “กระแสเงินทุนที่ไหลเข้าสู่ ETF และการปิดสถานะชอร์ตครั้งใหญ่ ล้วนชี้ว่ามีโอกาสสูงที่ราคาบิตคอยน์จะทะลุ 112,000 ดอลลาร์ในระยะสั้น” พร้อมเสริมว่า “การเคลื่อนไหวต่อจากนี้จะขึ้นอยู่กับปริมาณเงินที่ยังคงไหลเข้า ETF อย่างต่อเนื่องหรือไม่”
เมื่อพิจารณาบริบทต่างๆ ทั้งการยอมรับโดยกฎระเบียบ การสนับสนุนจากมหภาค และสภาพคล่องของตลาด ทำให้ภาพรวมในขณะนี้เอื้อต่อการที่บิตคอยน์อาจทำจุดสูงสุดใหม่ในอนาคตอันใกล้ โดยเฉพาะหากแนวโน้มยังคงอยู่ในทิศทางเดียวกันต่อไป
ความคิดเห็น 0