โทเคน ‘K’ ของเคนโต(Kinto) โปรเจกต์แพลตฟอร์มการแลกเปลี่ยนแบบกระจายศูนย์ (DEX) ประสบเหตุราคาดิ่งลงถึง 92% ภายในวันเดียว หลังมีรายงานการ *แฮกกิ้งนอกระบบ* ที่เกี่ยวข้องกับอาบิทรัม(Arbitrum) และเหตุการณ์ *ปลดล็อกโทเคนจำนวนมหาศาล* เพื่อขายทิ้ง ทำให้หลายคนในชุมชนตั้งข้อสงสัยว่าอาจเป็น *การสายป่านหนี หรือ Rug Pull*
เมื่อวันที่ 10 (เวลาท้องถิ่น) ราคาโทเคน ‘K’ ร่วงลงแตะระดับต่ำสุดที่ 0.5114 ดอลลาร์ หรือประมาณ 710 บาท ซึ่งถือเป็น ‘ราคาต่ำสุดเป็นประวัติการณ์’ ทั้งที่ก่อนหน้านั้นไม่กี่ชั่วโมง ราคายังคงอยู่ที่ 8.12 ดอลลาร์ หรือราว 11,297 บาท การดิ่งลงของราคาทำให้ตลาดเข้าสู่ภาวะเทขายอย่างหนัก ท่ามกลางความวิตกจากข่าวการแฮกและแรงขายที่เกิดจากการปลดล็อกโทเคนจำนวนมาก
ต้นตอของความตระหนกเริ่มจากประกาศของทีมงานเคนโตบนแพลตฟอร์ม X ว่าเกิดเหตุ “แฮกกิ้งที่เกี่ยวข้องกับการจัดสรร $K บนอาบิทรัม ซึ่งอยู่นอกระบบของเครือข่ายเคนโต” โดยทางเคนโตยืนยันว่าเหตุการณ์แฮกครั้งนี้ไม่ได้กระทบต่อกระเป๋าเงินของผู้ใช้งานหรือคลังบริดจ์ที่อยู่ภายใต้ระบบของตนเอง ขณะที่บริษัทด้านความปลอดภัย เช่น Seal911, Hypernative, Venn และ Zeroshadow กำลังสืบสวนหาต้นตอของปัญหา
ขณะเดียวกัน ความไม่ไว้วางใจของชุมชนยังเพิ่มขึ้นหลังมีการระบุว่า เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ได้มีการ ‘ปลดล็อกโทเคน สำหรับนักลงทุน’ ส่งผลให้มีการปล่อยโทเคนเข้าสู่ตลาดถึง 1.86 ล้านโทเคน หรือคิดเป็น 73.6% ของจำนวนโทเคนทั้งหมด ซึ่งทำให้ปริมาณหมุนเวียนในตลาดเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า
นักวิเคราะห์คริปโตชื่อดัง HumzyTrades ให้ความเห็นว่า โทเคนที่ถูกปล่อยออกมาส่วนใหญ่น่าจะถูกซื้อไว้ในราคาเฉลี่ยประมาณ 10 ดอลลาร์ (ราว 13,900 บาท) นำไปสู่ความเป็นไปได้ที่นักลงทุนอาจขายทำกำไรคิดเป็นมูลค่ารวมถึง 15 ล้านดอลลาร์ หรือกว่า 208 ล้านบาทไทย
หลังจากเกิดข่าวการแฮกพร้อมกับแรงเทขายอย่างหนัก ราคาของโทเคน ‘K’ จึงร่วงจาก 8.12 ดอลลาร์ ลงไปต่ำกว่า 1 ดอลลาร์ ในระยะเวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมง แม้จะมีแรงซื้อกลับบางช่วงที่ทำให้ราคาฟื้นขึ้นไปถึง 3.33 ดอลลาร์ (ประมาณ 4,629 บาท) แต่ก็ยังร่วงลงอีกครั้งมาอยู่ระดับ 0.782 ดอลลาร์ (ประมาณ 1,087 บาท) ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความผันผวนรุนแรงแบบ *โรลเลอร์โคสเตอร์*
ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ราคาโทเคน ‘K’ ลดลงไปแล้วกว่า 85.8% ขณะที่ตลอด 30 วัน ร่วงไป 91% และตลอด 3 เดือน รูดลง 85.3% ปัจจุบัน มูลค่าตลาดรวมเหลือเพียง 925,886 ดอลลาร์ (ประมาณ 12.8 ล้านบาท) ขณะที่มูลค่าการซื้อขายต่อวันยังสูงถึง 2.8 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 38.9 ล้านบาท)
ชุมชนผู้ลงทุนต่างแสดงความไม่พอใจอย่างมาก ผู้ใช้งานรายหนึ่งกล่าวว่า “ทั้งตลาดเขียว แต่พอร์ตเราลดลงกว่า 70% นี่คือการลงทุนที่เลวร้ายที่สุดของชีวิต” ขณะที่อีกคนระบุว่า “เคนโตคือตัวอย่างของสแกมโปรเจกต์ชัดๆ”
อินฟลูเอนเซอร์อย่าง 0xPain และเทรดเดอร์ Dan the Man วิพากษ์วิจารณ์การสื่อสารของทีมเคนโตว่า ‘ไร้ความรับผิดชอบและขาดความโปร่งใส’ พร้อมเรียกร้อง ‘คำขอโทษและคำอธิบายอย่างเร่งด่วน’
ทั้งนี้ รายงานของบริษัทตรวจสอบความปลอดภัย CertiK ที่เผยแพร่เมื่อวันที่ 5 ระบุว่า ตลอดไตรมาสที่ 2 ปี 2025 วงการคริปโตเผชิญความเสียหายรวมกว่า *620 ล้านดอลลาร์* (ราว 8,618 ล้านบาท) โดยสามารถกู้คืนได้เพียง 181 ล้านดอลลาร์ (ราว 2,516 ล้านบาท) เท่านั้น โดยเฉพาะระบบที่ใช้บนนเครือข่ายอีเธอเรียม(ETH) และอาบิทรัม(Arbitrum) กำลังกลายเป็นจุดอ่อนสำคัญ ซึ่งสอดคล้องกับกรณีเคนโต
*ความคิดเห็น*: เหตุการณ์นี้ไม่เพียงตอกย้ำถึง ‘ความเปราะบาง’ ของระบบความปลอดภัยในโปรเจกต์คริปโตยุคใหม่ แต่ยังสะท้อนภาพว่า ‘การขาดการสื่อสารและมาตรการคุ้มครองนักลงทุน’ อาจนำไปสู่ความเชื่อมั่นที่พังทลายในวงการได้ทุกเมื่อ
ความคิดเห็น 0