ราคาบิตคอยน์(BTC) ปรับตัวสูงขึ้นหลังการเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ประจำเดือนมิถุนายนของสหรัฐฯ ความกังวลเรื่องเงินเฟ้อที่เริ่มกลับมาแรงอีกครั้ง ทำให้ความเป็นไปได้ของการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนกรกฎาคมลดลงอย่างชัดเจน โดยนักวิเคราะห์เตือนว่า หากบิตคอยน์ไม่สามารถฟื้นตัวผ่านแนวต้านระยะสั้นได้ ก็อาจเป็นอุปสรรคต่อการกลับเข้าสู่แนวโน้มขาขึ้น
เมื่อวันที่ 24 ตัวเลข CPI ของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 2.7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน สูงกว่าระดับ 2.4% ในเดือนก่อนหน้า และเป็นตัวเลขที่สอดคล้องกับการคาดการณ์ของตลาด โดยถือเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ ด้านค่า CPI พื้นฐาน (ไม่รวมอาหารและพลังงาน) อยู่ที่ 2.9% แม้ต่ำกว่าคาดการณ์ที่ 3% แต่สูงกว่าตัวเลขเดือนก่อน ขณะที่ CPI รายเดือนเพิ่มขึ้น 0.3% ถือเป็นอัตราการเร่งตัวรายเดือนที่สูงที่สุดในรอบ 5 เดือน ส่วน CPI พื้นฐานปรับขึ้น 0.2% ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึง *แนวโน้มเงินเฟ้อที่เริ่มติดแน่นในโครงสร้างราคา* โดยเฉพาะในหมวดอาหารและขนส่งที่ยังคงมีราคาสูง
ราคาของบิตคอยน์ตอบสนองทันทีต่อข้อมูลดังกล่าว โดยปรับตัวพุ่งขึ้นจากระดับ 16,500 ดอลลาร์ (ราว 2.29 ล้านบาท) มาแตะ 118,400 ดอลลาร์ (ราว 16.46 ล้านบาท) อย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ตาม การวิเคราะห์ทางเทคนิคชี้ว่า บิตคอยน์ควรฟื้นยืนเหนือระดับแนวต้านสำคัญระหว่าง *119,250–120,700 ดอลลาร์* (ประมาณ 16.58–16.89 ล้านบาท) ให้ได้ เพื่อยืนยันโมเมนตัมขาขึ้น หากสามารถผ่านแนวดังกล่าวไปได้ มีโอกาสเดินหน้าทำสถิติใหม่เหนือ 123,000 ดอลลาร์ (ราว 17.09 ล้านบาท)
อีกด้านหนึ่ง ดัชนีค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ (DXY) ปรับตัวขึ้น 2.1% ตั้งแต่ต้นเดือนกรกฎาคม มาที่ระดับ *98.5* จากความกังวลเกี่ยวกับเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้น สะท้อนว่า *ตลาดเริ่มให้น้ำหนักกับการตรึงหรือขึ้นดอกเบี้ยมากกว่าการลดดอกเบี้ย* อย่างไรก็ตาม ทิศทางที่ชัดเจนยังคงต้องจับตาการประชุมทางนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ในเดือนกรกฎาคมที่จะถึงนี้ ความเคลื่อนไหวจาก Fed จะเป็นตัวกำหนดแนวโน้มระยะกลางทั้งของตลาดคริปโตและค่าเงินดอลลาร์ต่อไป
*ความคิดเห็น*: ตัวเลข CPI ที่สูงเกินคาดอาจเป็นสัญญาณเตือนกลุ่มสินทรัพย์เสี่ยง โดยเฉพาะตลาดคริปโตที่อ่อนไหวต่อทิศทางการเงินของ Fed ขณะที่บิตคอยน์ยังคงต้องพิสูจน์แรงซื้อบริเวณแนวต้านสำคัญ ซึ่งจะชี้ชัดว่าการฟื้นตัวครั้งนี้มีความยั่งยืนหรือไม่
ความคิดเห็น 0