Back to top
  • 공유 แชร์
  • 인쇄 พิมพ์
  • 글자크기 ขนาดตัวอักษร
ลิงก์ถูกคัดลอกแล้ว

บิตคอยน์(BTC) ร่วง 6,000 ดอลลาร์ในวันเดียว นักลงทุนใหญ่ขายทำกำไรกว่า 1.5 พันล้าน

บิตคอยน์(BTC) ร่วง 6,000 ดอลลาร์ในวันเดียว นักลงทุนใหญ่ขายทำกำไรกว่า 1.5 พันล้าน / Tokenpost

ราคาของบิตคอยน์(BTC)ร่วงลงกว่า 6,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 834,000 บาท) ภายในเวลาเพียงวันเดียว หลังจากเพิ่งทำสถิติสูงสุดใหม่ที่ 123,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 17,097,000 บาท) ไปเมื่อไม่กี่วันก่อน ซึ่งทำให้อยู่ในอันดับ 5 ของสินทรัพย์ที่มีมูลค่ารวมสูงสุดของโลก ความเคลื่อนไหวล่าสุดนี้ถูกมองว่าเป็นสัญญาณชัดเจนของ *การปรับฐาน* หลังจากการพุ่งขึ้นอย่างร้อนแรง

ข้อมูลจากบริษัทคริปโตควอนต์(CryptoQuant)ระบุว่า นักลงทุนรายใหญ่ขายทำกำไรกว่า 1,500 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 2.08 ล้านล้านบาท) ภายในเวลาเพียงวันเดียว ขณะที่ทางบริษัทวิเคราะห์บนเครือข่ายอย่างกลาสโนด(Glassnode)คาดว่ามูลค่ากำไรที่ผู้ถือคริปโตได้ตัดสินใจล็อกไว้ในช่วงนี้อาจสูงถึง 3,500 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 4.87 ล้านล้านบาท) อีกหนึ่งจุดสำคัญคือรัฐบาลภูฏานก็ถูกพบว่ามีการโอนบิตคอยน์ไปยังพื้นซื้อขายอย่างไบแนนซ์(Binance) ซึ่งอาจหมายถึงการขายบางส่วน

นอกจากนี้ กลาสโนดยังชี้ให้เห็นถึงความเปลี่ยนแปลงในสัดส่วนระหว่าง *นักลงทุนระยะยาว* (LTH) และ *นักลงทุนระยะสั้น* (STH) ว่าอาจเป็นสัญญาณล่วงหน้าของการเปลี่ยนเทรนด์ โดยระบุว่า "ปริมาณการถือครองของผู้ถือระยะยาวกำลังลดลง ในขณะที่อัตราส่วนของผู้ถือระยะสั้นเพิ่มขึ้น" ซึ่งหมายถึง *แรงกดดันในการขายทำกำไร* กำลังเพิ่มขึ้นทั่วทั้งตลาด พร้อมเสริมว่า “การไหลเข้าของเงินทุนจากผู้ลงทุนระยะยาวที่เคยเกิดขึ้นต่อเนื่องในหลายเดือนเริ่มมีการกลับทิศ” ซึ่งถือเป็น *สัญญาณเตือน* สำคัญ

ปัจจัยภายนอกอย่างดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของสหรัฐในเดือนมิถุนายนก็ส่งผลต่อบรรยากาศการลงทุน โดยข้อมูลล่าสุดสูงกว่าคาดเล็กน้อย ซึ่งกดดันความเชื่อมั่นในการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง รวมถึงกระตุ้นความกังวลว่าเฟดอาจเดินหน้ารัดเข็มขัดนโยบายการเงินต่อไป และส่งผลลบต่อราคาคริปโตเคอร์เรนซีโดยตรง

ความไม่แน่นอนของสถานการณ์ทำให้ตลาดแบ่งออกเป็นสองฝั่ง นักวิเคราะห์บางรายยังคงมองว่าบิตคอยน์มีแนวโน้มไปถึงระดับ 200,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 27.8 ล้านบาท) ภายในปี 2025 อย่างไรก็ตาม *กระแสระแวงแนวโน้มขาลง* ก็เริ่มได้รับเสียงสนับสนุนมากขึ้น โดยเฉพาะจากนักเทรดชื่อดังอย่าง ปีเตอร์ แบรนต์(Peter Brandt) ที่เตือนว่า “ตอนนี้อาจเป็น *โค้งสุดท้ายของช่วงขาขึ้น* แล้วก็เป็นได้”

ขณะเดียวกัน บริษัทวิเคราะห์ข้อมูลออนเชนอย่างเซนติเมนต์(Santiment)ระบุว่าบิตคอยน์มี *อัตราการเคลื่อนไหวบนโซเชียลมีเดีย* พุ่งเกิน 43% ซึ่งเป็นสัญญาณของอารมณ์ FOMO (กลัวพลาดโอกาส) ที่กำลังครอบงำตลาด โดยแนะนำให้นักลงทุนระมัดระวังในการเข้าซื้อ โดยเฉพาะ “หลังจากความร้อนแรงสงบลง อาจพบจังหวะเหมาะสมกว่าสำหรับการเข้าตลาด”

ทุกครั้งที่บิตคอยน์พุ่งขึ้นอย่างรุนแรงก็มักจะตามมาด้วยการปรับฐาน และมุมมองส่วนใหญ่ระบุว่า *การย่อตัวครั้งนี้เป็นเรื่องปกติ* อย่างไรก็ตาม ทิศทางต่อไปจะได้รับการตัดสินจากการเคลื่อนไหวของราคาในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า นักลงทุนควรจับตามองตัวชี้วัดสำคัญและปฏิกิริยาของตลาดอย่างใกล้ชิดเพื่อตัดสินใจเลือก *จังหวะเข้าลงทุน* ต่อไปอย่างมีสติ

<ลิขสิทธิ์ ⓒ TokenPost ห้ามเผยแพร่หรือแจกจ่ายซ้ำโดยไม่ได้รับอนุญาต>

บทความที่มีคนดูมากที่สุด

บทความที่เกี่ยวข้อง

ความคิดเห็น 0

ข้อแนะนำสำหรับความคิดเห็น

ขอบคุณสำหรับบทความดี ๆ ต้องการบทความติดตามเพิ่มเติม เป็นการวิเคราะห์ที่ยอดเยี่ยม

0/1000

ข้อแนะนำสำหรับความคิดเห็น

ขอบคุณสำหรับบทความดี ๆ ต้องการบทความติดตามเพิ่มเติม เป็นการวิเคราะห์ที่ยอดเยี่ยม
1