แม้จะเกิดเหตุการณ์แฮกครั้งใหญ่ที่มีสกุลเงินดิจิทัลชื่อดังอย่าง *ชิบะอินุ(SHIB)* รวมอยู่ด้วย แต่มูลค่าของ SHIB กลับยังทรงตัวอย่างน่าประหลาด เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นจากการโจมตีระบบเบื้องหลังของแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนคริปโตระดับกลาง *บิ๊กวัน(BigONE)* ซึ่งถูกเจาะด้วยวิธีการแบบ ‘ซัพพลายเชนแฮก’ ส่งผลให้สินทรัพย์รวมกว่า *2,700 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 375 ล้านบาท)* ถูกขโมยไป
จากข้อมูลที่เปิดเผย สินทรัพย์ที่ถูกแฮกไป ประกอบด้วย *บิตคอยน์(BTC)* จำนวน 121 เหรียญ, *อีเธอเรียม(ETH)* 350 เหรียญ, *เทเธอร์(USDT)* 8.54 ล้านเหรียญ, *โซลานา(SOL)* 1,800 เหรียญ และที่โดดเด่นคือ *ชิบะอินุ(SHIB)* ที่ถูกโอนออกไปถึง *9,690 ล้านโทเคน* ซึ่งสร้างความวิตกให้กับกลุ่มผู้ถือเหรียญ SHIB เนื่องจากมีการโยกย้ายจำนวนมากไปยังที่อยู่กระเป๋าภายนอก
อย่างไรก็ตาม ราคา SHIB หลังเกิดเหตุการณ์แทบไม่สะทกสะท้าน โดยปรับตัวลดลงเล็กน้อยสู่ระดับ *0.00001350 ดอลลาร์สหรัฐ* ก่อนจะฟื้นตัวเป็น *0.00001370 ดอลลาร์สหรัฐ* ภายในเวลาไม่กี่นาที ซึ่งแตกต่างจากสถานการณ์ ‘ถล่มขาย’ หรือการสูญเสียสภาพคล่องที่มักเกิดขึ้นตามหลังการแฮกในวงกว้าง
ผู้เชี่ยวชาญมองว่าปัจจัยที่ช่วยพยุงราคา SHIB ในครั้งนี้ อาจมาจากหลายปัจจัย หนึ่งคือ *บิ๊กวัน* ไม่ใช่แพลตฟอร์มขนาดใหญ่ที่มีอิทธิพลต่อตลาดโดยรวม อีกประเด็นหนึ่งคือ *อุปทานมหาศาลของ SHIB* อาจช่วยดูดซับแรงกระแทกในตลาดได้ นอกจากนี้ การที่ข้อมูลบนบล็อกเชนสามารถติดตามเส้นทางโทเคนได้อย่างโปร่งใส ก็อาจช่วยลดแรงกดดันด้านจิตวิทยาของนักลงทุนได้เช่นกัน
ทางด้าน *บิ๊กวัน* ได้ประกาศปิดระบบถอนเงินทั้งหมดทันที และระบุว่าการโจมตีไม่ได้เกี่ยวข้องกับการขโมยรหัสกระเป๋าเงินของผู้ใช้ แต่เป็นการละเมิดสิทธิ์ในระบบเพื่อโอนย้ายสินทรัพย์ในภายใน ซึ่งขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างกระบวนการกู้คืน โดยยังไม่เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับแนวทางการชดเชยหรือแผนฟื้นฟูเงินทุน
*ชิบะอินุ* แม้จะเป็นคริปโตที่มาจากกระแส *มีม* แต่กลับมีปริมาณการซื้อขายสูงและกลุ่มนักลงทุนรายย่อยจำนวนมากทั่วโลก โดยทั่วไปแล้วราคาของ SHIB มักตอบสนองทันทีต่อข่าวร้าย แต่ผลที่เกิดขึ้นในกรณีนี้ กลับบ่งชี้ถึงพัฒนาการใหม่ในพฤติกรรมของตลาด
แม้เหตุการณ์นี้จะเป็นอีกหนึ่งกรณีแฮกที่ไม่ควรมองข้าม แต่การที่ราคา SHIB ยังคงมี ‘ความยืดหยุ่น’ แสดงให้เห็นถึงศักยภาพด้าน *เสถียรภาพภายในตัวเหรียญ* และเปิดโอกาสให้ตลาดได้ประเมินสถานะของเหรียญกลุ่มมีมในมุมมองที่ *เป็นระบบและมีเหตุผล* มากยิ่งขึ้น ความสามารถในการ ‘ดูดซับแรงกระแทก’ อย่างราบรื่น อาจสะท้อนถึงตลาดที่กำลังเติบโตและมีวุฒิภาวะมากขึ้นในภาพรวม
ความคิดเห็น 0