กระเป๋าเงินที่เกี่ยวข้องกับเครือข่ายพาย(Pi Network) ได้เคลื่อนย้ายโทเคนจำนวนมหาศาลจาก OKX จนกลายเป็นที่จับตาของวงการคริปโตอีกครั้ง โดยอ้างอิงจาก PiScan ซึ่งเป็นเว็บไซต์ตรวจสอบบล็อกเชน พบว่ากระเป๋าที่ไม่เปิดเผยตัวตนซึ่งถูกติดป้ายว่า ‘ODM’ ได้ถอนโทเคน PI ออกมาจาก OKX มากถึง 2.8 ล้านเหรียญ และในปัจจุบันมียอดถือครองสะสมมากกว่า 315 ล้านโทเคน นับว่าเป็นหนึ่งในกระเป๋าที่ครอบครองโทเคนรายใหญ่ที่สุดในเครือข่ายพาย
การเคลื่อนไหวดังกล่าวกระตุ้นให้เกิดการคาดการณ์มากมาย ตั้งแต่กรณี 'การไบแบ็ก' โทเคน ไปจนถึง 'การเตรียมเข้าจดทะเบียนในตลาดซื้อขายขนาดใหญ่' ซึ่งอาจกำลังจะเกิดขึ้นในอนาคต สิ่งที่น่าสนใจคือ กระเป๋า ODM เคยมีประวัติถอนโทเคนถึง 3.5 ล้าน PI ในการทำธุรกรรมครั้งเดียวมาก่อน ทำให้หลายฝ่ายมองว่าพฤติกรรมการถอนโทเคนปริมาณมากอาจไม่ใช่เพียงเพื่อถือครองระยะยาวเท่านั้น โดยมีการวิเคราะห์จากผู้เกี่ยวข้องในแวดวงว่า การสะสมโทเคน PI อย่างเข้มข้นเช่นนี้อาจสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ควบคุมราคา หรือเป็นส่วนหนึ่งของแผนระยะยาวโดยทีม Pi Core Team ก็เป็นได้
อย่างไรก็ตาม ตัวตนที่แท้จริงของเจ้าของกระเป๋า ODM ยังไม่ได้รับการเปิดเผยอย่างเป็นทางการ ความเป็นไปได้หนึ่งที่ถูกพูดถึงอย่างกว้างขวางในชุมชนออนไลน์คือ กระเป๋า ODM อาจเป็นส่วนหนึ่งของ 'กลไกการไบแบ็กภายใน' ของทีม Pi Core Team คล้ายกับกรณี 'กระเป๋าซาโตชิ' ที่ถูกกล่าวถึงในประวัติศาสตร์ของบิตคอยน์(BTC) ที่มีบทบาทในการควบคุมอุปทานและการบริหารจัดการราคา หากเป็นเรื่องจริง การไบแบ็กนี้อาจช่วยสนับสนุนราคาตลาด เพิ่มสภาพคล่องในกระดานซื้อขายแบบไร้ศูนย์กลาง(DEX) และช่วยในด้านทุนสนับสนุนสำหรับนักพัฒนา
แต่ท่ามกลางความคาดหวังดังกล่าว ราคาของ PI กลับยังคงแกว่งตัวในภาวะอ่อนแรง โดยในช่วง 14 วันที่ผ่านมา ราคาลดลง 10.9% ขณะที่ในรอบ 7 วันราคาลดลงอีก 4.8% และหดตัวอีก 2.2% ภายในเวลา 24 ชั่วโมง สาเหตุหลักมาจาก *การปลดล็อกโทเคนครั้งใหญ่* ที่เพิ่มจำนวนเหรียญเข้าสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง ระหว่างวันที่ 8-15 กรกฎาคม มีโทเคนกว่า 100 ล้านเหรียญที่ถูกปลดล็อก ล่าสุดเมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม วันเดียวมีโทเคนถูกปลดถึง 19.39 ล้านเหรียญ และหากนับรวมจนถึงสิ้นเดือน จะมีโทเคนถูกปลดล็อตเพิ่มอีกกว่า 137.85 ล้านเหรียญ โดยในเดือนสิงหาคมคาดว่าจะมีปริมาณการปลดล็อกในระดับใกล้เคียงกัน
นักวิเคราะห์บางรายแสดงความกังวลว่าการปลดล็อกโทเคนจำนวนมากเช่นนี้อาจส่งผลให้เกิดแรงเทขาย ซึ่งยิ่งเพิ่มความผันผวนต่อราคา และยิ่งตอกย้ำความจำเป็นของ *กลยุทธ์การควบคุมสภาพคล่อง* ไม่ว่าจะด้วยการไบแบ็กหรือการจัดการจากกระเป๋ายุทธศาสตร์อย่าง ODM
หากกระเป๋า ODM มีความเชื่อมโยงกับทีม Pi Core Team อย่างแท้จริง อาจถือเป็นสัญญาณของการเตรียมแก้ปัญหาระยะสั้นเกี่ยวกับราคาหรือสภาพคล่อง โดยเฉพาะหากเกี่ยวพันไปถึงการ *จดทะเบียนในกระดานซื้อขายระดับใหญ่* หรือขยายเครือข่ายของโปรเจกต์ในอนาคต อย่างไรก็ตามในเวลานี้ ตลาดยังคงจับตาสถานการณ์ด้วยความระมัดระวังและรอการประกาศอย่างเป็นทางการจากทีมเครือข่ายพายต่อไป
ความคิดเห็น 0