ริปเปิล(XRP) กลับมาเป็นจุดสนใจอีกครั้งหลังจากราคาพุ่งทะลุ 3.20 ดอลลาร์ (ประมาณ 4,448 บาท) โดยนักวิเคราะห์จำนวนหนึ่งมองว่านี่ไม่ใช่แค่การปรับขึ้นในระยะสั้น แต่เป็นรูปแบบซ้ำของ ‘แนวโน้มในตลาดกระทิง’ ที่เคยเกิดขึ้นในอดีต ซึ่งอาจนำไปสู่การพุ่งขึ้นต่อ ขณะที่บางฝ่ายเตือนว่าอาจมีการย่อตัวระยะสั้น แต่กระแสหลักยังคงเชื่อว่า XRP มีศักยภาพปรับขึ้นอีกมาก
ภายในสัปดาห์เดียว XRP พุ่งขึ้นกว่า 33% และสามารถทะลุแนวต้านระยะยาวที่เคยกดดันราคาตลอดหลายปีที่ผ่านมาได้ ทำให้สัญญาณเชิงบวกเริ่มชัดเจนมากขึ้น ทางเทคนิค ราคากำลังเข้าสู่ลักษณะ ‘การบีบตัวในรูปสามเหลี่ยม’ ซึ่งอาจนำไปสู่การทะลุขึ้นอีกระลอก
เวราน อัลจารา(Veran Aljarrah) ผู้ร่วมก่อตั้งบริษัทด้านการลงทุน แบลคสวอน แคปิตอลลิสต์ กล่าวถึง ‘ความสัมพันธ์’ ระหว่างดัชนีดอลลาร์(DXY) กับราคา XRP โดยระบุว่า “ทุกครั้งที่ DXY ร่วงแรง XRP จะปรับตัวขึ้นอย่างมั่นคง” เขายังชี้ว่าในปี 2018, 2021 และช่วงปลายปี 2024 ก็เคยเกิดโครงสร้างตลาดแบบเดียวกัน และเป็นสัญญาณเริ่มต้นของรอบขาขึ้นที่สำคัญที่ผ่านมา
เมื่อดัชนี DXY กำลังเคลื่อนไปใกล้ระดับต่ำสุดในปี 2018 อัลจาราให้ความเห็นว่า XRP อาจกำลังเข้าสู่เส้นทางการเติบโตแบบเดียวกับอดีต และหากผ่านจุดแนวต้านต่าง ๆ ได้สำเร็จ ย่อมมีโอกาส ‘ทะยานขึ้นอย่างรุนแรง’ อีกครั้ง
ด้านการคาดการณ์ราคา มีนักวิเคราะห์บางรายเริ่มพูดถึงเป้าหมายที่ระดับ 6 ดอลลาร์ (ประมาณ 8,340 บาท) อาลี มาร์ติเนซ(Ali Martinez) นักวิเคราะห์คริปโตจากแพลตฟอร์มชื่อดังระบุเป้าราคาดังกล่าวจากมุมมองเทคนิค ขณะที่เทรดเดอร์รายใหญ่อย่าง CasiTrades ชี้ว่า XRP ยังมีพื้นที่ให้ปรับขึ้นตาม ‘อัตราส่วนฟีโบนักชี’ และยังได้รับแรงหนุนจากความหวังใน *XRP ETF* และความเชื่อมั่นในผลลัพธ์ทางบวกจากคดีกับสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์สหรัฐฯ (SEC)
สำหรับปริมาณการซื้อขาย XRP ราย 24 ชั่วโมง ล่าสุดพุ่งแตะ 11.5 พันล้านดอลลาร์ (ประมาณ 1.59 ล้านล้านบาท) โดยมีนักลงทุนสถานะชอร์ตสูญเสียรวม 360 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 5,004 ล้านบาท) ซึ่งเป็นสัญญาณว่า *แรงซื้อยังเป็นฝ่ายเหนือกว่า*
ในแง่เทคนิค หาก XRP สามารถผ่านแนวต้านจิตวิทยาที่ 3.40 ดอลลาร์ (ประมาณ 4,726 บาท) ได้ ก็อาจเข้าสู่การพุ่งขึ้นครั้งใหม่ โดยมีเป้าหมายสูงสุดระยะสั้นที่ 3.77 ดอลลาร์ (ประมาณ 5,240 บาท) เพิ่มขึ้นจากระดับปัจจุบันอีกประมาณ 38%
แม้อนาคตของ XRP จะยังเผชิญความไม่แน่นอนจากความแข็งค่าของดอลลาร์, ความเสี่ยงในตลาดโดยรวม และผลคดีของ SEC แต่อย่างน้อย ‘รูปแบบราคาที่เกิดซ้ำ’ และ *การสะสมแรงซื้ออย่างต่อเนื่อง* ได้เปิดโอกาสให้นักลงทุนจินตนาการถึงจุดเปลี่ยนทางประวัติศาสตร์อีกครั้งในอนาคตอันใกล้
ความคิดเห็น 0