ราคาของโดชคอยน์(DOGE) พุ่งทะลุแนวต้านสำคัญ สวนกระแสตลาดคริปโตที่อยู่ในช่วงพักฐาน โดชคอยน์ปรับขึ้นเฉลี่ยรายวันกว่า *6%* โดยล่าสุดแตะระดับ *0.25 ดอลลาร์สหรัฐ* หรือราว *348 บาทไทย* เพิ่มขึ้นอย่างชัดเจนจากระดับ *0.20 ดอลลาร์* (ประมาณ *278 บาท*) เมื่อหนึ่งสัปดาห์ก่อน
การปรับตัวขึ้นของโดชคอยน์ในรอบนี้ ส่วนหนึ่งได้รับแรงสนับสนุนจากการผ่านร่าง *กฎหมาย Genius Act* ของสภาคองเกรสสหรัฐ โดยกฎหมายนี้มุ่งชี้แจงให้การกำกับดูแลตลาดคริปโตมีความชัดเจนยิ่งขึ้น และได้ผ่านการลงนามอย่างเป็นทางการโดย *ประธานาธิบดีทรัมป์* ซึ่งนักวิเคราะห์มองว่า ช่วยลดความไม่แน่นอนในตลาด ส่งผลให้ความเชื่อมั่นของนักลงทุน โดยเฉพาะกลุ่มที่กังวลเรื่องนโยบายที่เข้มงวด กลับมาสูงขึ้นอีกครั้ง โดยเฉพาะในคริปโตหลักๆ รวมถึงโดชคอยน์
ภาวะ ‘เห่อมีมคอยน์’ ที่กลับมาร้อนแรงในเดือนกรกฎาคมก็เป็นอีกแรงผลักดัน โดยในเดือนเดียวดังกล่าว เงินทุนกว่า *17,000 ล้านดอลลาร์* (ประมาณ *236,300 ล้านบาทไทย*) หลั่งไหลเข้าสู่ตลาดมีมคอยน์ โดยโดชคอยน์กลายเป็นศูนย์กลางของกระแสดังกล่าว ด้วยความได้เปรียบด้าน ‘ชื่อเสียง’ และ ‘สภาพคล่อง’ จึงถูกยกให้เป็นโปรเจกต์ที่ได้เปรียบเหนือมีมคอยน์อื่นๆ
ไม่เพียงเท่านี้ โดชคอยน์ยังมีข่าวดีเชิงเทคโนโลยี ล่าสุดได้ร่วมมือกับทีมพัฒนา *Wormhole* ซึ่งอยู่บนเครือข่าย *โซลานา(SOL)* และสำเร็จในการผสานรวมระบบ ‘ZK Bridge’ แล้วเรียบร้อย การพัฒนาในครั้งนี้ขยายการใช้งานของโดชคอยน์จากแค่การให้ทิปและส่งเหรียญทั่วไป สู่ *ระบบการเงินแบบกระจายอำนาจ(DeFi)* และ *ตลาด NFT* ซึ่งถือเป็นอีกก้าวในการเพิ่มศักยภาพด้านการใช้งานจริง
ข้อมูลจากนักวิเคราะห์คริปโตชื่อดัง *อาลี มาร์ติเนซ(Ali Martinez)* เผยว่าในช่วง *48 ชั่วโมงที่ผ่านมา* มีวาฬคริปโตกว่า *10 ราย* ที่ถือครองรวมกว่า *1 พันล้าน DOGE* เข้าซื้อเก็บเพิ่มเติม โดยมูลค่าซื้อรวมอยู่ที่ประมาณ *250 ล้านดอลลาร์* หรือราว *3,475 ล้านบาทไทย* ขณะเดียวกัน บริษัทการลงทุนด้านดิจิทัลแอสเซต *บิท ออริจิน(BIT ORIGIN)* ก็ประกาศแผนจัดสรรเงิน *500 ล้านดอลลาร์* (ราว *6,950 ล้านบาท*) เป็นสำรองในโดชคอยน์ ส่งสัญญาณเชิงบวกให้ตลาด
ผู้เชี่ยวชาญหลายรายประเมินว่า หากโดชคอยน์สามารถทะลุแนวต้านเดิมที่ *0.27 ดอลลาร์* (ประมาณ *375 บาทไทย*) ได้ อาจมีโอกาสพุ่งไปแตะช่วง *0.30–0.36 ดอลลาร์* (ประมาณ *417–501 บาทไทย*) และในบางกรณีก็มีความเป็นไปได้ว่าอาจวิ่งถึง *0.50 ดอลลาร์* (ประมาณ *695 บาทไทย*) ภายในระยะกลาง
ในมิติด้านเทคนิค ค่า *RSI* และ *MACD* ของโดชคอยน์ ยังไม่ได้แสดงสัญญาณว่าอยู่ในเขต ‘ร้อนแรงเกินไป’ ซึ่งบ่งชี้ว่า การขาขึ้นยังมีพื้นที่ให้เติบโตต่อ ความน่าสนใจอยู่ที่เริ่มมีกลุ่ม ‘นักลงทุนสายเทรนด์’ เข้ามาร่วมกับนักลงทุนระยะสั้น ทำให้กระแสขาขึ้นของราคาโดชคอยน์มีแรงหนุนมากยิ่งขึ้น
ท่ามกลางตลาดคริปโตที่แสดงออกถึงสัญญาณชะลอ โดชคอยน์กลายเป็นโทเคนตัวหลักที่กำลังนำตลาดในแง่ของ *การขยายการใช้งาน, ปัจจัยสนับสนุนเชิงนโยบาย,* และ *ความต้องการลงทุน* ทำให้กลับมายืนเด่นในเวทีราคาอีกครั้ง คาดว่าแนวโน้มดังกล่าวจะยังดึงความสนใจของนักลงทุนในภาคคริปโตต่อไปอีกระยะหนึ่ง
ความคิดเห็น 0