Back to top
  • 공유 แชร์
  • 인쇄 พิมพ์
  • 글자크기 ขนาดตัวอักษร
ลิงก์ถูกคัดลอกแล้ว

FHFA เตรียมเปิดทางคริปโตใช้ประกอบขอสินเชื่อบ้าน หนุนผู้ถือเหรียญเข้าถึงระบบการเงิน

FHFA เตรียมเปิดทางคริปโตใช้ประกอบขอสินเชื่อบ้าน หนุนผู้ถือเหรียญเข้าถึงระบบการเงิน / Tokenpost

หน่วยงานการเงินที่อยู่อาศัยของรัฐบาลกลางสหรัฐ (FHFA) ได้เปิดเผยแนวทางใหม่ที่จะ *พิจารณารวมสินทรัพย์ดิจิทัลหรือสกุลเงินดิจิทัลในการประเมินความเสี่ยงสินเชื่อที่อยู่อาศัย* ซึ่งอาจเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่จะช่วยให้ *ผู้ถือครองคริปโตระยะยาวมีโอกาสได้รับการผ่อนปรนเงื่อนไขการขอสินเชื่อมากขึ้น* สร้างความสนใจอย่างมากในตลาด

จากรายงานเมื่อวันที่ 24 (เวลาท้องถิ่น) แนวทางดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามปรับระบบการเงินที่อยู่อาศัยของสหรัฐให้ทันกับยุคสินทรัพย์ดิจิทัล โดยที่ผ่านมา ผู้ถือครองเหรียญดิจิทัลจำนวนมากจำเป็นต้อง *แปลงสินทรัพย์เป็นเงินสดก่อนขอสินเชื่อ* ทำให้ต้องเสียต้นทุนด้านสภาพคล่อง หากสามารถนำคริปโตมารวมเป็นปัจจัยพิจารณาได้ ผู้ใช้งานจะสามารถเข้าถึงบริการทางการเงินได้หลากหลายยิ่งขึ้น

อย่างไรก็ตาม แนวทางนี้ยังมีความเข้าใจคลาดเคลื่อนอยู่บ้าง เมื่อบางฝ่ายตีความว่า เฉพาะคริปโตที่ *เก็บไว้กับศูนย์กลางซื้อขายภายใต้ข้อบังคับของสหรัฐเท่านั้น* ถึงจะได้รับการยอมรับ แต่ในความเป็นจริง FHFA ระบุเพียงว่า ต้องเป็น “*สินทรัพย์ดิจิทัลที่สามารถเก็บไว้กับศูนย์กลางซื้อขายที่อยู่ภายใต้ข้อบังคับของสหรัฐ*” โดยไม่มีการห้าม ‘*การเก็บเหรียญด้วยตัวเอง (self-custody)*’ แต่อย่างใด ทั้งนี้ หลักสำคัญควรอยู่ที่ *ความสามารถในการตรวจสอบ (verifiability)* มากกว่าลักษณะการจัดเก็บ

*การเก็บเหรียญแบบ self-custody* ถือเป็นโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญของระบบคริปโต ซึ่งเน้นความปลอดภัยและความโปร่งใสยิ่งกว่าการใช้บริการศูนย์เก็บแบบรวมศูนย์ โดยที่ผ่านมา เหตุการณ์ล้มละลายของศูนย์ซื้อขายหลายแห่งได้แสดงให้เห็นถึงความเสี่ยงจากการพึ่งพาโครงสร้างแบบรวมศูนย์ ในทางตรงกันข้าม การเก็บด้วยตัวเองโดยใช้ *ข้อมูลบนบล็อกเชนเพื่อยืนยันยอดคงเหลือและกรรมสิทธิ์* ถือว่าให้ความโปร่งใสมากขึ้น และมีเครื่องมือตรวจสอบจากภายนอกที่รองรับอยู่แล้ว

แต่ถ้าคริปโตที่ไม่ได้ถูกเก็บไว้กับศูนย์ซื้อขายถูกตัดสิทธิ์จากการพิจารณาเงินกู้ ก็อาจก่อให้เกิด *แรงจูงใจให้ผู้ใช้งานเลือกใช้วิธีเก็บที่มีความเสี่ยงมากขึ้น* ซึ่งสวนทางกับจุดประสงค์ของนโยบายโดยตรง

ด้วยเหตุนี้ นักวิเคราะห์บางรายเสนอให้สร้าง *กรอบนโยบายที่ยืดหยุ่นและสมเหตุสมผล* โดยระบุให้สินทรัพย์ที่เก็บทั้งแบบ self-custody และแบบที่ฝากไว้กับผู้ให้บริการศูนย์รวม *สามารถเข้าร่วมการประเมินได้ หากผ่านเกณฑ์ด้านสภาพคล่องและการตรวจสอบ* และอาจกำหนดให้มีการ *ลดมูลค่า (haircut)* ตามความผันผวนของตลาด อีกทั้งควรพิจารณาความเสี่ยงจากสัดส่วนคริปโตในพอร์ตภาพรวมด้วย

สิ่งสำคัญที่สุดคือ การกำหนดให้ *ต้องมีวิธีประเมินมูลค่าที่น่าเชื่อถือและการตรวจสอบที่เป็นระบบ* ไม่ว่าจะเป็นสินทรัพย์ในรูปแบบใด หลักการดังกล่าวใช้กับหุ้น, ค่าเงิน, หรือสินทรัพย์นอกตลาดอยู่แล้ว และควรนำมาใช้กับโลกคริปโตเช่นกัน

"ความคิดเห็น": การพยายามยัดคริปโตเข้าไปในระบบการเงินแบบเก่าที่ไม่สอดรับกับคุณสมบัติของมัน อาจเป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาเทคโนโลยี โดยในมุมกลับ แนวทางของ FHFA ครั้งนี้ถือเป็นโอกาสสำคัญในการออกแบบระบบสินเชื่อที่อยู่อาศัยใหม่ *โดยเคารพหลักการของความเป็นเจ้าของตนเอง (self-sovereignty)* และความหลากหลายของผู้ใช้งานที่ไม่ผ่านตัวกลาง

เพื่อให้ระบบใหม่เดินหน้าได้อย่างมั่นคง *ผู้กำหนดนโยบายจำเป็นต้องเข้าใจเทคโนโลยีแบบไร้ศูนย์กลางในระดับลึก* ทั้งในด้านการจัดเก็บ การตรวจสอบ และหลักการของโปรโตคอลแบบเปิด หากขาดความเข้าใจดังกล่าว ก็อาจได้ข้อบังคับที่ไม่ครอบคลุมผู้ใช้งานจริง และเป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาตลาดแบบโปร่งใสในระยะยาว

นี่จึงเป็นช่วงเวลาสำคัญที่ควรวางกรอบใหม่ *บนพื้นฐานของคุณลักษณะเฉพาะของสินทรัพย์ดิจิทัล* แทนที่จะบังคับให้คริปโตปรับตัวเข้ากับโครงสร้างเก่า ซึ่งนอกจากจะช่วยสนับสนุนสิทธิของผู้ใช้งานแล้ว ยังอาจเป็นก้าวแรกสู่โมเดลการผสานระหว่างระบบการเงินแบบเก่าและสินทรัพย์ดิจิทัลที่ยั่งยืนในอนาคต.

<ลิขสิทธิ์ ⓒ TokenPost ห้ามเผยแพร่หรือแจกจ่ายซ้ำโดยไม่ได้รับอนุญาต>

บทความที่มีคนดูมากที่สุด

บทความที่เกี่ยวข้อง

ความคิดเห็น 0

ข้อแนะนำสำหรับความคิดเห็น

ขอบคุณสำหรับบทความดี ๆ ต้องการบทความติดตามเพิ่มเติม เป็นการวิเคราะห์ที่ยอดเยี่ยม

0/1000

ข้อแนะนำสำหรับความคิดเห็น

ขอบคุณสำหรับบทความดี ๆ ต้องการบทความติดตามเพิ่มเติม เป็นการวิเคราะห์ที่ยอดเยี่ยม
1