Back to top
  • 공유 แชร์
  • 인쇄 พิมพ์
  • 글자크기 ขนาดตัวอักษร
ลิงก์ถูกคัดลอกแล้ว

สหรัฐฯ จำคุกหญิงแอริโซนา 8 ปีฐานช่วยสายลับเกาหลีเหนือแทรกบริษัทคริปโต

สหรัฐฯ จำคุกหญิงแอริโซนา 8 ปีฐานช่วยสายลับเกาหลีเหนือแทรกบริษัทคริปโต / Tokenpost

หญิงชาวสหรัฐฯ รายหนึ่งจากรัฐแอริโซนา ถูกศาลสหรัฐฯ ตัดสินโทษจำคุกเกือบ 9 ปี จากความผิดฐานร่วมมือกับสายลับเกาหลีเหนือช่วยให้กลุ่มบุคคลปลอมตัวแทรกซึมเข้าสู่ระบบของบริษัทด้านคริปโตและเทคโนโลยีในสหรัฐฯ ได้สำเร็จ โดยคดีนี้ชี้ให้เห็นถึงความรุนแรงของขบวนการฉ้อโกงผ่านการว่าจ้างบุคลากรไอทีปลอมตัวจากเกาหลีเหนือ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของทั้งอุตสาหกรรมเทคโนโลยีและสกุลเงินดิจิทัล

เมื่อวันที่ 24 (เวลาท้องถิ่น) อัยการจากสำนักงานเขตโคลัมเบียรายงานว่า คริสตินา มารี แชปแมน(Christina Marie Chapman) ถูกตัดสินว่ามีความผิดในข้อหา ‘ฉ้อโกงทางการสื่อสารอิเล็กทรอนิกส์’, ‘ขโมยข้อมูลประจำตัว’ และ ‘สมรู้ร่วมคิดฟอกเงิน’ โดยได้รับโทษจำคุก 102 เดือน หรือราว 8 ปี 6 เดือน นอกจากนี้ ศาลยังสั่งให้เธออยู่ภายใต้การควบคุมดูแลอีก 3 ปี และให้ริบทรัพย์ที่เกี่ยวข้องกับคดีมูลค่า 284,000 ดอลลาร์สหรัฐ(ประมาณ 39.4 ล้านบาท) พร้อมชดใช้ค่าเสียหายต่อผู้เสียหายรวม 177,000 ดอลลาร์สหรัฐ(ประมาณ 24.6 ล้านบาท)

จากการสอบสวน แชปแมนร่วมมือกับสายลับจากเกาหลีเหนือปลอมตัวเป็นชาวเกาหลีใต้ และมีส่วนช่วยในการจัดหางานให้กลุ่มเครือข่ายบุคคลเหล่านี้เข้าไปสมัครเป็นพนักงานในบริษัทต่าง ๆ มากกว่า 300 แห่งในสหรัฐฯ โดยเฉพาะตำแหน่งที่สามารถทำ ‘งานทางไกล’ ได้ ทั้งนี้ บุคคลเหล่านี้จงใจปลอมเป็นพลเมืองหรือผู้พำนักถาวรในสหรัฐฯ เพื่อเข้าสู่ระบบภายในของบริษัท และใช้ประโยชน์จากข้อมูลและทรัพยากรที่เข้าถึงได้

อัยการเผยว่า ขบวนการดังกล่าวสร้างรายได้ที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายสูงถึงประมาณ 17.83 ล้านดอลลาร์สหรัฐ(ราว 248 ล้านบาท) และเชื่อว่ามีการใช้ข้อมูลประจำตัวของชาวอเมริกันอย่างน้อย 68 ราย นับเป็นหนึ่งในโครงข่ายหลอกลวง ‘การปลอมตัวเป็นพนักงานไอทีจากเกาหลีเหนือ’ ที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่หน่วยงานความมั่นคงไซเบอร์ของสหรัฐฯ เคยเปิดโปง

ก่อนหน้านี้ ยังมีรายงานว่า ชาวเกาหลีเหนือ 4 ราย ได้แอบสมัครงานในสตาร์ทอัพด้านคริปโตของสหรัฐฯ และบริษัทออกโทเคนในเซอร์เบีย โดยใช้ตัวตนปลอม สร้างความเสียหายทางการเงินรวมกว่า 900,000 ดอลลาร์สหรัฐ(ประมาณ 125.1 ล้านบาท)

ขณะเดียวกัน กระทรวงการคลังสหรัฐฯ ได้ออกมาตรการลงโทษต่อผู้ช่วยเหลือเครือข่ายกลุ่มไอทีจากเกาหลีเหนือจำนวน 2 รายและองค์กรอีก 4 แห่ง โดยระบุว่าบุคคลและหน่วยงานเหล่านี้มีบทบาทในการบุกรุกบริษัทคริปโตต่างชาติ ทำลายโครงสร้างการทำงาน หรือขโมยข้อมูลและเงินทุน ซึ่ง ‘ความคิดเห็น’: รายได้จากการแฮกเหล่านี้อาจเชื่อมโยงกับการพัฒนาอาวุธทำลายล้างของรัฐบาลเกาหลีเหนือ

กรณีนี้เป็นสัญญาณเตือนชัดเจนว่า ภัยคุกคามแบบซับซ้อนและเป็นระบบจากต่างชาติ โดยเฉพาะจากเกาหลีเหนือ กำลังกลายเป็น ‘ความเสี่ยงฉุกเฉิน’ ที่คุกคามอุตสาหกรรมคริปโตและเทคโนโลยีทั่วโลก หน่วยงานรัฐและภาคเอกชนในอุตสาหกรรมควรเร่งจัดมาตรการรับมือกับการแทรกแซงของกลุ่มเครือข่ายไซเบอร์จากเกาหลีเหนืออย่างจริงจังต่อไป

<ลิขสิทธิ์ ⓒ TokenPost ห้ามเผยแพร่หรือแจกจ่ายซ้ำโดยไม่ได้รับอนุญาต>

บทความที่มีคนดูมากที่สุด

ความคิดเห็น 0

ข้อแนะนำสำหรับความคิดเห็น

ขอบคุณสำหรับบทความดี ๆ ต้องการบทความติดตามเพิ่มเติม เป็นการวิเคราะห์ที่ยอดเยี่ยม

0/1000

ข้อแนะนำสำหรับความคิดเห็น

ขอบคุณสำหรับบทความดี ๆ ต้องการบทความติดตามเพิ่มเติม เป็นการวิเคราะห์ที่ยอดเยี่ยม
1