ไฮฟ์ ดิจิทัล เทคโนโลยีส์(HIVE) กลับมาเป็นที่จับตามองอีกครั้งในวงการคริปโต หลังสร้างชื่อในปี 2017 ในฐานะบริษัทแรกที่จดทะเบียนในตลาดหุ้นในฐานะผู้ขุดบิตคอยน์(BTC) ล่าสุดบริษัทได้เป่าระฆังปิดตลาดที่ตลาดหลักทรัพย์แนสแด็ก เพื่อเฉลิมฉลองความคืบหน้าในการเปลี่ยนผ่านสู่ธุรกิจประมวลผลสมรรถนะสูง (HPC) ซึ่งมุ่งเป้าไปสู่รายได้ประจำปี 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 1,390 ล้านบาท
เมื่อไม่นานนี้ ไฮฟ์ปรากฏตัวอย่างโดดเด่นบนเวทีแนสแด็ก โดยมีแฟรงก์ โฮล์มส์(Frank Holmes) ประธานบอร์ดบริหาร และไอดิน คิลิค(Aydin Kilic) ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ร่วมให้สัมภาษณ์กับ Cointelegraph โดยกล่าวถึงการแข่งขันด้าน *การจัดหาพลังงานและพื้นที่* สำหรับอุตสาหกรรมขุดบิตคอยน์ที่ทวีความรุนแรง บทบาทของบิตคอยน์ในฐานะ *สินทรัพย์สำรอง* ที่กำลังพัฒนา และการที่หุ้นของบริษัทยังคงถูกมองว่าเป็น *หุ้นตัวแทนของบิตคอยน์ (proxy stock)*
อุตสาหกรรม HPC กำลังกลายเป็นรากฐานการเติบโตทางธุรกิจของไฮฟ์ บริษัทเตรียมขยายโครงสร้างพื้นฐานเพื่อตอบสนองความต้องการด้าน AI, คลาวด์ และการวิเคราะห์ข้อมูล ซึ่งถือเป็นการก้าวข้ามขีดจำกัดของโมเดลธุรกิจการขุดบิตคอยน์แบบดั้งเดิมอย่างชัดเจน
ในอีกด้านหนึ่ง ตลาดการเงินของสหรัฐกำลังถูกเขย่าด้วยการเตือนจากซิตาเดล ซีเคียวริตีส์ ต่อคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(SEC) รวมถึงกระแสความสนใจต่อ *เมนเทอร์ด้านบิตคอยน์* ของ *ทรัมป์* ที่กำลังได้รับแรงหนุนอย่างรุนแรงจากตัวประธานาธิบดีเอง นอกจากนี้ยังมีความเคลื่อนไหวจากกลุ่มบริษัทคริปโตที่อยู่ระหว่างการเตรียมตัวเข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้น ซึ่งสะท้อนภาพรวมของบรรยากาศในตลาดที่เริ่มจับตามองการเปลี่ยนแปลงใหม่
จุดยืนของไฮฟ์ในครั้งนี้สะท้อนให้เห็นถึง *อนาคตของบริษัทคริปโตที่ก้าวข้ามขอบเขตของบิตคอยน์* ท่ามกลางสภาพแวดล้อมทางเทคโนโลยีและกฎระเบียบที่กำลังเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว บริษัทต่าง ๆ ต้องแสวงหาวิธีการอยู่รอดผ่านโมเดลการเติบโตใหม่และการปรับกลยุทธ์อย่างชาญฉลาด นี่คือตัวอย่างของการเดินเกมที่อาจพลิกโฉมทั้งอุตสาหกรรมในอนาคต
ความคิดเห็น 0