ตลาดคริปโตเตรียมเผชิญกับ ‘ความผันผวนรุนแรง’ อีกครั้งในสัปดาห์นี้ จากการที่โทเคนใหม่มูลค่ารวมกว่า 9,540 พันล้านวอน (ประมาณ 686 ล้านดอลลาร์) กำลังจะถูก *ปลดล็อก* เข้าสู่ระบบ โดยสถานการณ์นี้เกิดขึ้นพร้อมกับการที่ราคาบิตคอยน์(BTC) ร่วงลงจากระดับ 165.7 ล้านวอนมาอยู่ที่ประมาณ 159.2 ล้านวอน ก่อนจะฟื้นตัวขึ้นเล็กน้อย จึงอาจส่งสัญญาณถึงแรงกดดันด้านราคาที่เพิ่มขึ้นในระยะสั้น
หนึ่งในโครงการที่ถูกจับตามากที่สุดคือ *ซุย(SUI)* ซึ่งกำลังจะมีการปล่อยโทเคนประมาณ 44 ล้านเหรียญ คิดเป็น 1.27% ของอุปทานทั้งหมด โดยมีมูลค่ารวมราว 2,637 พันล้านวอน ขณะเดียวกัน *โซลานา(SOL)* ก็จะมีการปล่อยเหรียญกว่า 465,000 เหรียญ คิดเป็นมูลค่าประมาณ 1,216 พันล้านวอน ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อราคาทั้ง 2 โครงการนี้
สำหรับผู้ใช้งานที่กำลังติดตามโครงการหน้าใหม่อย่าง *อีเธอร์นา(ENA)* ก็ควรระวัง เพราะมีกำหนดจะมีการปลดล็อกโทเคนมูลค่าประมาณ 361 พันล้านวอน หลังจากเพิ่งมีการพุ่งขึ้นของราคาก่อนหน้า ถึงแม้ซุยจะเคยแตะระดับ 4 ดอลลาร์ พร้อมปรับตัวขึ้นกว่า 10% และราคาของโซลานาจะทะลุ 180,000 วอน ด้วยปัจจัยบวกอย่างการรองรับเมตามาสก์และความสามารถในการประมวลผลที่เพิ่มขึ้น 66% แต่ *ความคิดเห็น* ของนักวิเคราะห์หลายรายยังมองว่า การเข้ามาของโทเคนจำนวนมากแบบกะทันหันอาจเป็นตัวแปรที่จำกัดแนวโน้มขาขึ้น
ในส่วนของ *จูปิเตอร์(JUP)* และ *ออปติมิซึม(OP)* ก็มีแผนปลดล็อกโทเคนจำนวนมากเช่นกัน โดยจูปิเตอร์จะปลดโทเคนมูลค่าประมาณ 445 พันล้านวอน และออปติมิซึมที่แม้จะเพิ่มขึ้นถึง 51% ในเดือนนี้แต่ยังคงต่ำกว่าระดับสูงสุดถึง 83% ก็มีกำหนดปลดโทเคนมูลค่าราว 319 พันล้านวอน
อีกหนึ่งกรณีสำคัญที่โดดเด่นคือ *คามิโน(KMNO)* ซึ่งมีแผนปล่อยโทเคนกว่า 229 ล้านเหรียญ คิดเป็น 7.3% ของอุปทานรวม มูลค่ารวมประมาณ 189 พันล้านวอน บวกกับโครงการอื่นอย่าง *จีพีเอส, ไซก์(Sign), และเซต้าเชน(ZETA)* ก็เตรียมกระจายโทเคนเป็นมูลค่า 162, 163 และ 139 พันล้านวอนตามลำดับ
ในประเภท *แบบปลดล็อกต่อเนื่อง* (*ไลน์ซีรีส์*) *เวิลด์คอยน์(WLD)* จะปล่อยโทเคน 4,460 ล้านเหรียญในระยะเวลาแบบรายวัน ส่งผลให้เกิดอุปทานใหม่กว่า 621 พันล้านวอนในสัปดาห์นี้ โดย *โดจคอยน์(DOGE)* ก็ไม่แพ้กัน มีแผนเพิ่มอุปทาน 0.06% หรือมูลค่าราว 318 พันล้านวอน และโครงการ *ทรัมป์(TRUMP)* ที่กำลังปล่อยโทเคนแบบคลิฟ (ปล่อยครั้งเดียว) คิดเป็นมูลค่าสูงถึง 695 พันล้านวอน ซึ่งเป็นรูปแบบที่อาจสร้างแรงกระแทกรุนแรงให้กับตลาดได้ทันที
เทนเซอร์(TAO), เซเลสเทีย(TIA) และอาวาลานเช(AVAX) ก็มีแผนจัดงานเวสติ้งเช่นกัน โดยมีมูลค่ารวมอยู่ที่ประมาณ 299, 198 และ 250 พันล้านวอนตามลำดับ นอกจากนี้ โปรโตคอลกู้ยืม *มอร์โฟ(Morpho)* ก็กำลังจะส่งโทเคนใหม่มูลค่า 188 พันล้านวอน เข้าสู่ตลาด คิดเป็น 2.18% ของปริมาณทั้งหมด
โดยรวมแล้ว การ *ปลดล็อกพร้อมกันในหลายโครงการ* ส่งผลให้อุปทานใหม่หลั่งไหลเข้าตลาดในระดับที่อาจกดดัน ‘สภาพคล่อง’ อย่างมีนัยสำคัญ สำหรับนักเทรดและนักลงทุน จึงจำเป็นต้องพิจารณาตัวแปรหลายมิติ ไม่ว่าจะเป็นแนวรับทางเทคนิค, โครงสร้างโทเคนโนมิกส์ หรือแม้แต่พฤติกรรมการล็อกโทเคนของนักลงทุนก่อนหน้า เพราะประเด็นสำคัญไม่ได้อยู่แค่ราคาจะพุ่งต่อได้หรือไม่ แต่อยู่ที่ตลาดจะทานแรงขายมหาศาลนี้ได้มากแค่ไหน *ความคิดเห็น*.
ความคิดเห็น 0