อีเธอเรียม(ETH) ปรับตัวขึ้นเหนือระดับ 3,940 ดอลลาร์ (ประมาณ 5.47 ล้านบาท) แบบชั่วคราว ก่อนจะอ่อนตัวลง 4% ตามทิศทางการปรับฐานของตลาดคริปโตโดยรวม แต่อารมณ์การลงทุนในตลาดอนุพันธ์ยังคงแสดงแนวโน้มเชิงบวก โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่มองว่าการอ่อนค่าครั้งนี้ไม่เกิดจากปัจจัยลบเฉพาะอีเธอเรียม ส่งผลให้ความหวังต่อการกลับไปทดสอบระดับ ‘5,000 ดอลลาร์’ (ราว 6.95 ล้านบาท) ยังคงไม่ถูกปิดตาย
ความไม่แน่นอนระดับโลกยังคงกดดันตลาด โดยเฉพาะประเด็น *การเจรจาภาษีนำเข้าของสหรัฐอเมริกา* แม้ว่าจะสามารถบรรลุข้อตกลงกับยุโรปได้แล้ว แต่เดดไลน์การเจรจากับจีน ซึ่งกำหนดไว้วันที่ 12 สิงหาคม ยังคงเป็นประเด็นที่นักลงทุนทั่วโลกจับตามองอย่างใกล้ชิด ส่งผลให้เม็ดเงินจำนวนมากไหลเข้าสู่ตราสารหนี้ระยะสั้นและสินทรัพย์ปลอดภัยมากกว่าตลาดคริปโต ซึ่งกระทบในแง่ของ *สภาพคล่องในตลาดดิจิทัล*
อย่างไรก็ตาม ตลาดอนุพันธ์ของอีเธอเรียมกลับไม่เกิดแรงขายแบบป้องกันความเสี่ยง โดยยังเห็นพฤติกรรมการถือ *สถานะเปิดในสัญญาฟิวเจอร์สและออปชันที่คงที่* รวมไปถึง *ค่าพรีเมียมความผันผวนที่ไม่เพิ่มขึ้น* สะท้อนความเชื่อมั่นจากผู้เล่นในตลาด ที่ยังมองการฟื้นตัวของ ETH มากกว่าจะเกิดแรงเทขายรอบใหม่
อีกหนึ่งสัญญาณเชิงบวกคือการเคลื่อนไหวของนักลงทุนสถาบัน ซึ่งยังคงนำเงินไหลเข้าสู่อีเธอเรียมผ่าน *กองทุน ETF ที่อิง ETH* อย่างต่อเนื่อง ทั้งยังมีบางบริษัทที่เริ่มบรรจุอีเธอเรียมไว้ในสินทรัพย์ขององค์กรมากขึ้น ความเคลื่อนไหวนี้ถือเป็น *สัญญาณแห่งความเชื่อมั่นระยะยาว* จากสถาบันต่อศักยภาพของอีเธอเรียมในฐานะสินทรัพย์ทางเลือก
แม้ปฏิกิริยาจากตลาดยังไม่แสดงการฟื้นตัวอย่างรุนแรง แต่เทรดเดอร์จำนวนไม่น้อยยังเลือกที่จะให้โอกาสกับแนวโน้มขาขึ้นของอีเธอเรียม ท่ามกลางภาพรวมทางเศรษฐกิจมหภาคที่ยังคงมีอิทธิพลอย่างสูงต่อราคา ดังนั้น *ผลการเจรจาภาษีนำเข้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีน* ที่จะได้บทสรุปในไม่ช้านี้ อาจกลายเป็น *จุดเปลี่ยนสำคัญของมูลค่า ETH* ในระยะถัดไป
ความคิดเห็น 0