Back to top
  • 공유 แชร์
  • 인쇄 พิมพ์
  • 글자크기 ขนาดตัวอักษร
ลิงก์ถูกคัดลอกแล้ว

สหรัฐฯ สนใจสเตเบิลคอยน์พุ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์ หลังร่างกฎหมาย GENIUS ผ่านความเห็นชอบ

สหรัฐฯ สนใจสเตเบิลคอยน์พุ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์ หลังร่างกฎหมาย GENIUS ผ่านความเห็นชอบ / Tokenpost

ความสนใจใน ‘สเตเบิลคอยน์’ ของสหรัฐฯ พุ่งสูงเป็นประวัติการณ์ หลังจากร่างกฎหมาย GENIUS หรือชื่อเต็ม *Guiding and Empowering Nation’s Innovation for US Stablecoins Act* ได้รับความเห็นชอบเมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม (เวลาท้องถิ่น) ซึ่งก่อให้เกิดกระแสการค้นหาเกี่ยวกับ ‘สเตเบิลคอยน์’ บน Google ในสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว จนทำสถิติสูงสุดนับตั้งแต่เคยมีการบันทึกมา

ข้อมูลจาก Google Trends ชี้ว่ายอดค้นหาคำว่า ‘สเตเบิลคอยน์’ แตะระดับสูงสุดในช่วงกลางเดือนกรกฎาคม สะท้อนถึงความตื่นตัวของผู้ใช้งานต่อประเด็นนี้อย่างชัดเจน โดยก่อนหน้านี้ครั้งล่าสุดที่ยอดการค้นหาเพิ่มขึ้นในระดับใกล้เคียงกัน คือช่วงเดือนพฤษภาคม 2022 ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ระบบอัลกอริทึมของเหรียญเทอรา(USTC) เสียความเชื่อมโยงกับมูลค่าคงที่ (depeg) และเกิดการล่มสลายของระบบนิเวศลูน่า(ลูน่า)

อย่างไรก็ตาม ครั้งนี้ไม่ใช่ผลจากวิกฤตแต่เป็นการตอบรับต่อ ‘เสถียรภาพเชิงโครงสร้าง’ และความสนใจจากนักลงทุนสถาบันที่ขยายตัวต่อเนื่อง ร่างกฎหมาย GENIUS ถือเป็นกฎหมายฉบับแรกของสหรัฐฯ ที่กำหนดกรอบควบคุมสเตเบิลคอยน์ในระดับครอบคลุม เช่น การกำกับดูแลผู้ออกเหรียญ การรับประกันหลักทรัพย์ค้ำประกัน และบทบาทของหน่วยงานกำกับดูแลต่างๆ ซึ่งทั้งหมดนี้ช่วยวางรากฐานให้บริษัทการเงินสามารถเข้ามาบริหารจัดการและใช้ประโยชน์จากสเตเบิลคอยน์ในระบบการเงินได้อย่างมั่นใจยิ่งขึ้น

ขณะเดียวกัน บรรดาบริษัทระดับโลกอย่างเมตา(Meta), เพย์พาล(PayPal) และเจพีมอร์แกน(JP Morgan) ต่างเร่งดำเนินการพัฒนา ‘สเตเบิลคอยน์ของตนเอง’ ไม่ว่าจะด้วยรูปแบบของระบบทดสอบหรือลงสู่ขั้นตอนการใช้งานจริงแล้วก็ตาม ด้านข้อมูลจากเว็บไซต์ดิฟายลามา(DefiLlama) ระบุว่า ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ปริมาณการหมุนเวียนของสเตเบิลคอยน์ในตลาดมีแนวโน้ม ‘พุ่งขึ้น’ อย่างต่อเนื่อง โดยการออกเหรียญใหม่ก็เติบโตไม่แพ้กัน

สิ่งนี้ทำให้หลายฝ่ายในวงการเริ่มประเมินว่า ‘สเตเบิลคอยน์’ กำลังกลายเป็น *กุญแจสำคัญของการนำบล็อกเชนสู่สังคมวงกว้าง* นักวิเคราะห์คริปโตที่ใช้ชื่อว่า ‘The DeFi Investor’ แสดงความคิดเห็นผ่าน X (เดิมคือทวิตเตอร์) ว่า “ผู้คนเพิ่งเริ่มเข้าใจศักยภาพที่แท้จริงของสเตเบิลคอยน์” พร้อมชี้ว่า “สินทรัพย์ประเภทนี้อาจเป็นเครื่องมือแรกที่สามารถดึงผู้ใช้งานจำนวนพันล้านคนเข้าสู่ระบบออนเชนได้”

หากเทรนด์นี้ยังดำเนินต่อไป การเติบโตของสเตเบิลคอยน์จะไม่ใช่แค่กระแสระยะสั้น แต่เป็นจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนผ่านสู่ ‘โครงสร้างพื้นฐานการเงินยุคดิจิทัล’ อย่างแท้จริง โดยเฉพาะเมื่อ *ทรัมป์* ออกมาสนับสนุนอุตสาหกรรมบล็อกเชนอย่างเปิดเผยในการเลือกตั้งปี 2024 ซึ่งช่วยลดความไม่แน่นอนด้านนโยบาย และกลายเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่หนุนให้ความสนใจต่อสเตเบิลคอยน์ขยายตัวในวงกว้าง

<ลิขสิทธิ์ ⓒ TokenPost ห้ามเผยแพร่หรือแจกจ่ายซ้ำโดยไม่ได้รับอนุญาต>

บทความที่มีคนดูมากที่สุด

บทความที่เกี่ยวข้อง

ความคิดเห็น 0

ข้อแนะนำสำหรับความคิดเห็น

ขอบคุณสำหรับบทความดี ๆ ต้องการบทความติดตามเพิ่มเติม เป็นการวิเคราะห์ที่ยอดเยี่ยม

0/1000

ข้อแนะนำสำหรับความคิดเห็น

ขอบคุณสำหรับบทความดี ๆ ต้องการบทความติดตามเพิ่มเติม เป็นการวิเคราะห์ที่ยอดเยี่ยม
1