สเตลลา(XLM) กำลังได้รับแรงหนุนจากกระแสขาขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยในช่วง 30 วันที่ผ่านมา ราคาปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่า 80% บ่งชี้ถึงแนวโน้มการทะลุแนวต้านสำคัญที่ระดับ *0.50 ดอลลาร์(ประมาณ 695 บาท)* ขณะเดียวกัน สัญญาณทางเทคนิคที่เรียกว่า ‘โกลเดนครอส’ ซึ่งเกิดจากเส้นค่าเฉลี่ยระยะสั้นตัดขึ้นเหนือเส้นค่าเฉลี่ยระยะยาว ก็กำลังจะปรากฏ ทำให้ตลาดเริ่มจับตาอย่างใกล้ชิด
ตามข้อมูลจาก CoinMarketCap ระบุว่า ขณะนี้ราคา *สเตลลา* ใกล้เกิดการตัดกันของเส้นค่าเฉลี่ย 9 วัน และ 26 วันบนกราฟรายชั่วโมง ซึ่งเป็นสัญญาณเชิงบวกในระยะสั้น และโดยทั่วไป ‘โกลเดนครอส’ มักสะท้อนถึงการเปลี่ยนทิศทางเป็นตลาดขาขึ้น ทำให้นักลงทุนเริ่มกลับเข้าซื้อสะสมอีกครั้ง
แม้ราคาปัจจุบันของ *XLM* จะย่อตัวลงเล็กน้อยอยู่ที่ *0.4288 ดอลลาร์(ประมาณ 596 บาท)* ลดลงจากวันก่อนหน้า 2.15% แต่ปริมาณการซื้อขายกลับเพิ่มขึ้น 0.99% มาอยู่ที่ *397.73 ล้านดอลลาร์(ประมาณ 5,523 ล้านบาท)* สร้างความหวังว่าอาจเป็นเพียงการพักฐานระยะสั้น อย่างไรก็ตาม ราคายังติดแนวต้านที่ระดับ *0.4376 ดอลลาร์(ประมาณ 608 บาท)* ซึ่ง *บิตคอยน์(BTC)* ที่กลับมาแข็งแกร่งขึ้นก็มีบทบาทสำคัญในการกดดันตลาดคริปโตโดยรวม
ดัชนี RSI (Relative Strength Index) ล่าสุดอยู่ที่ 48.52 บ่งชี้ว่าโมเมนตัมยังไม่ชัดเจนและยังไม่ได้เข้าสู่สภาวะซื้อมากหรือน้อยจนเกินไป แม้แรงซื้อจะเริ่มแผ่วหลังกระแสขาขึ้นในเดือนที่ผ่านมา แต่ก็ยังไม่ตัดโอกาสในการฟื้นตัวเพิ่มเติม
ในมุมมองของนักวิเคราะห์ตลาด *ปีเตอร์ แบรนต์(Peter Brandt)* เทรดเดอร์สายวิเคราะห์เทคนิคระดับตำนาน มองว่า *สเตลลา* อาจก้าวขึ้นมาเป็น “ร็อกสตาร์แห่งโลกคริปโต” เขาเน้นว่านักลงทุนควรจับตาดูการทะลุแนวต้านที่สำคัญ เพราะจะเป็นจุดเปลี่ยนเชิงเทคนิคที่แท้จริง
สถิติในอดีตยังเป็นปัจจัยหนุนเชิงบวก โดย *สเตลลา* ปิดบวกติดต่อกันตลอด 6 เดือนแรกของปีนี้ ถ้ายังคงแนวโน้มเดิมใน *ไตรมาส 3* ก็มีโอกาสรักษาแนวโน้มขาขึ้นไว้ได้
ในระยะถัดไป นักลงทุนควรเฝ้าดูว่า *XLM* จะสามารถทะลุแนวต้านที่ *0.50 ดอลลาร์(ประมาณ 695 บาท)* ได้หรือไม่ เพราะหากสำเร็จ จะเป็นสัญญาณพลิกกลับสู่บูลมาร์เก็ตอย่างเป็นทางการ *คำแนะนำ* คือจับตาปริมาณการซื้อขายเฉลี่ยและสัญญาณทางเทคนิคอย่างใกล้ชิดก่อนตัดสินใจลงทุน
ความคิดเห็น 0