หากคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ (SEC) อนุมัติการ *เปิดให้มีการสเตก* สำหรับอีเธอเรียม(ETH) ในกองทุนรวมดัชนีแบบซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ (ETF) จะมีความเป็นไปได้สูงที่เม็ดเงินลงทุนจากภาคสถาบันจะไหลเข้าสู่ตลาดอีเธอเรียมอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งสอดคล้องกับมุมมองที่ว่า อีเธอเรียม ETF อาจกลายเป็นทางเลือกลงทุนที่แข็งแกร่งในการตอบโต้ความนิยมของบิตคอยน์(BTC) ETF
มาร์คัส ไทเลน(Markus Thielen) หัวหน้าฝ่ายวิจัยของ 10x Research ให้สัมภาษณ์กับ Cointelegraph โดยชี้ว่า "การสเตกผ่าน ETF ไม่เพียงแต่เพิ่มผลตอบแทน แต่ยังอาจเปลี่ยนแปลงภูมิทัศน์ของตลาดโดยรวม" พร้อมระบุว่า หาก SEC ให้ *ไฟเขียวอย่างเป็นทางการ* นักลงทุนสถาบันจะมองเห็น *ความน่าสนใจของอีเธอเรียมเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด*
ก่อนหน้านี้ ผู้จัดการกองทุนที่ต้องการออก ETF ได้ยื่นคำร้องต่อ SEC ตั้งแต่ช่วงต้นปี เพื่อให้อนุญาตให้ ETF รองรับฟีเจอร์สเตก ซึ่งการเคลื่อนไหวด้านกฎระเบียบนี้สามารถพลิกโฉมโครงสร้างของตลาด ETF ได้อย่างมีนัย
ขณะเดียวกัน เนต เจราซี(Nate Geraci) ผู้เชี่ยวชาญ ETF และประธานบริษัท NovaDius Wealth Management เปิดเผยว่า SEC กำลัง *พิจารณาอย่างเป็นทางการ* ต่อคำขอจาก NASDAQ ที่เสนอให้เพิ่มฟีเจอร์สเตกใน iShares Ethereum ETF ของแบล็คร็อก($BLK) โดยเขาประเมินว่า การเพิ่มฟีเจอร์ดังกล่าวอาจกลายเป็น *เป้าหมายถัดไป* ของการกำกับดูแลจาก SEC
ฟีเจอร์สเตกยังมีความหมายที่ลึกซึ้งกว่าการเพิ่มผลตอบแทน โดยช่วยจูงใจให้ผู้ลงทุนถือครองในระยะยาว, บริหารความคล่องตัวของตลาด และ *สำคัญที่สุด* คือสามารถดึงดูดนักลงทุนกลุ่มใหม่ๆ เข้าสู่ ETF ได้ ด้วยเหตุนี้ อีเธอเรียม ETF ที่มีฟีเจอร์สเตกจะมีความได้เปรียบในการแข่งขันเหนือบิตคอยน์ ETF อย่างชัดเจน
"คำตัดสินสุดท้ายของ SEC" คือปัจจัยชี้ขาด เพราะขึ้นอยู่กับ *การอนุมัติหรือไม่* และ *จังหวะเวลา* ที่จะเกิดขึ้น ซึ่งจะส่งผลโดยตรงต่อราคาของอีเธอเรียม, โครงสร้างตลาด ETF และทิศทางเงินลงทุนจากภาคสถาบัน ทั้งนี้ ในยุคที่แนวทางกำกับดูแลมีความระมัดระวังมากกว่าสมัยที่ประธานาธิบดีทรัมป์ดำรงตำแหน่ง โลกคริปโตกำลังจับตาอย่างใกล้ชิดว่า อีเธอเรียม ETF จะสามารถ *ก้าวข้ามกำแพงสเตกได้หรือไม่*
ความคิดเห็น 0