Back to top
  • 공유 แชร์
  • 인쇄 พิมพ์
  • 글자크기 ขนาดตัวอักษร
ลิงก์ถูกคัดลอกแล้ว

อีเธอเรียม(ETH) ตั้งเป้าสู่ ‘คอมพิวเตอร์ระดับโลก’ ผสาน AI-หุ่นยนต์-โครงสร้างกระจายศูนย์ใน 10 ปี

อีเธอเรียม(ETH) ตั้งเป้าสู่ ‘คอมพิวเตอร์ระดับโลก’ ผสาน AI-หุ่นยนต์-โครงสร้างกระจายศูนย์ใน 10 ปี / Tokenpost

อีเธอเรียม(ETH) วางแผนพัฒนาเป็นศูนย์กลางทางเทคโนโลยีของ ‘ปัญญาประดิษฐ์(AI)’, ‘หุ่นยนต์’ และ ‘โครงสร้างพื้นฐานแบบกระจายศูนย์’ ในช่วง 10 ปีข้างหน้า พร้อมตั้งเป้าก้าวข้ามการเป็นเพียงแพลตฟอร์มสัญญาอัจฉริยะสู่ ‘คอมพิวเตอร์ระดับโลก’ ที่เป็นรากฐานของนวัตกรรมดิจิทัล ตามแผนยุทธศาสตร์ที่เปิดเผยโดยมูลนิธิอีเธอเรียม

นับตั้งแต่ก่อตั้งโดย วีทาลิก บูเทรน(Vitalik Buterin) ในปี 2013 โครงการอีเธอเรียมก่อร่างขึ้นจากแนวคิดที่จะขยายขีดจำกัดของบิตคอยน์(BTC) ให้สามารถเขียนโปรแกรมได้ โดยสามารถระดมทุนผ่านการขายล่วงหน้าในปี 2014 ได้มากถึงประมาณ 31,000 BTC (ราว 18.3 ล้านดอลลาร์ในขณะนั้น หรือประมาณ 254.3 พันล้านวอนในปัจจุบัน) ส่งผลให้กลายเป็นบล็อกเชนสาธารณะอันดับสองของอุตสาหกรรมในเวลาต่อมา

อีเธอเรียมมีบทบาทนำในระบบการเงินแบบกระจายศูนย์ (DeFi), NFT, เลเยอร์ 2 และแนวทางใหม่เช่น ‘การพิสูจน์ด้วยความรู้ศูนย์’ (ZK Proofs) โดยเฉพาะช่วงเปลี่ยนผ่านจากการใช้ ‘กลไกหลักฐานการทำงาน(PoW)’ สู่ ‘ระบบหลักฐานการมีส่วนร่วม(PoS)’ ที่เรียกว่า The Merge และเหตุการณ์ DAO ล่มล้วนเป็นช่วงเวลาแห่งการพิสูจน์ตัวของเครือข่าย

โจเซฟ ลูบิน (Joseph Lubin) ซีอีโอของบริษัทคอนเซนซิส กล่าวย้ำว่า “อีเธอเรียมแสดงถึงความมั่นคงและความสามารถในการฟื้นตัว ด้วยการไม่เคยหยุดทำงานแม้เพียงครั้งเดียว” เขายังชี้ว่า สถาบันการเงินระดับโลกอย่าง แบล็คร็อก, วีซ่า และ เจพีมอร์แกน กำลังสร้างบริการดิจิทัลบนอีเธอเรียม ซึ่งสะท้อนถึง ‘การยอมรับในระดับสถาบัน’ ที่ชัดเจนมากขึ้นในตอนนี้

โทมาช สตันซัค (Tomasz Stańczak) หนึ่งในผู้อำนวยการร่วมของมูลนิธิอีเธอเรียม ระบุว่า ในอีก 10 ปีข้างหน้า เครือข่ายนี้จะขยายบทบาทไปสู่ ‘เอเจนต์ AI แบบกระจายศูนย์’, ‘ระบบระบุตัวตนแบบกระจายศูนย์’ และ ‘ตลาดข้อมูล’ โดยยึดหลัก ‘การป้องกันความเป็นส่วนตัว’, ‘การต้านทานการเซ็นเซอร์’ และ ‘ปรัชญาโอเพ่นซอร์ส’ ว่าเป็นหัวใจสำคัญ พร้อมกล่าวว่า “นี่ไม่ใช่แค่ระบบเทคโนโลยี แต่คือเครือข่ายที่แบ่งปันและผลักดันวิสัยทัศน์ร่วมกัน”

ขณะที่ เซียวเหว่ย หวัง(Hsiao-Wei Wang) ผู้นำอีกคนจากมูลนิธิ ระบุว่า เป้าหมายสูงสุดของอีเธอเรียมคือการผสานเข้าสู่กิจกรรมดิจิทัลทั้งหมดในชีวิตประจำวัน พร้อมย้ำถึง ‘ความจำเป็นในการสร้างสมดุล’ ระหว่างนวัตกรรม เสถียรภาพ การขยายตัว และการเข้าถึงได้ง่าย

แนวทางในอนาคตของอีเธอเรียมจึงชัดเจนยิ่งขึ้น คือการ ‘เพิ่มระดับความกระจายศูนย์’, ‘ส่งเสริมการมีส่วนร่วมแบบโอเพ่นซอร์ส’ และ ‘ตกผลึกเป็นระบบนิเวศน์ที่พัฒนาโดยชุมชน’ เพื่อกระตุ้นการสร้างนวัตกรรมด้วยตัวเองจากนักพัฒนาและผู้ใช้งานโดยตรง

ลูบินยังเสริมว่า “อีเธอเรียมจะเป็นโครงสร้างพื้นฐานของทุกเทคโนโลยีเว็บ 3” ครอบคลุมตั้งแต่การเงิน สเตเบิลคอยน์ ไปจนถึงกราฟสังคมแบบกระจายศูนย์ และเครือข่าย AI แบบอัตโนมัติ

จากจุดเริ่มต้นเพียงโพสต์ในเว็บไซต์ Reddit เมื่อ 10 ปีก่อน สู่เครือข่ายที่ให้กำเนิด DApp มากกว่า 8,000 รายการ เวลานี้อีเธอเรียมกำลังถูกจับตาว่า จะสามารถก้าวขึ้นเป็นระบบปฏิบัติการดิจิทัลระดับโลกสำหรับทุกอุตสาหกรรมในทศวรรษถัดไปได้หรือไม่

<ลิขสิทธิ์ ⓒ TokenPost ห้ามเผยแพร่หรือแจกจ่ายซ้ำโดยไม่ได้รับอนุญาต>

บทความที่มีคนดูมากที่สุด

บทความที่เกี่ยวข้อง

ความคิดเห็น 0

ข้อแนะนำสำหรับความคิดเห็น

ขอบคุณสำหรับบทความดี ๆ ต้องการบทความติดตามเพิ่มเติม เป็นการวิเคราะห์ที่ยอดเยี่ยม

0/1000

ข้อแนะนำสำหรับความคิดเห็น

ขอบคุณสำหรับบทความดี ๆ ต้องการบทความติดตามเพิ่มเติม เป็นการวิเคราะห์ที่ยอดเยี่ยม
1