ราคา *อีเธอเรียม(ETH)* กำลังเผชิญแรงขายต่อเนื่องบริเวณระดับ 4,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 5.56 ล้านบาท) สวนทางกับความคาดหวังของนักเทรดจำนวนมาก แม้จะมีการเปิดเผยว่าอีเธอเรียมที่ถือครองเชิงกลยุทธ์มีมูลค่ารวมถึง 10,160 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 1.41 ล้านล้านบาท) และยังมีเงินทุนไหลเข้าสู่ ETF แบบสปอตติดต่อกันถึง 19 วัน คิดเป็นมูลค่ารวมกว่า 21,850 ล้านดอลลาร์ (ราว 3.03 ล้านล้านบาท) แต่ราคากลับไม่สามารถทะลุแนวต้านสำคัญได้
ในช่วงที่ราคาปรับฐาน นักลงทุนรายย่อยกลายเป็นผู้รับผลกระทบหลักจากการถูกบังคับปิดสถานะ *Long Position* ใน ETH อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ อย่างไรก็ตาม กลุ่มเดียวกันนี้ก็ได้กลับเข้าซื้ออย่างกล้าหาญเมื่อราคาลดลงถึงแนวรับที่ 3,600 ดอลลาร์ (ราว 5 ล้านบาท) ส่งผลให้ *ตลาดได้รับแรงหนุนด้านสภาพคล่อง* และราคาสามารถดีดตัวกลับขึ้นมายังระดับราคาเฉลี่ยระยะสั้นได้ชั่วคราว แม้กระนั้น การทะลุผ่านระดับ ‘4,000 ดอลลาร์’ ยังคงเป็นความท้าทายสำคัญที่ยังไม่สำเร็จ
ในด้านของ *บิตคอยน์(BTC)* ราคาได้รับแรงกดดันอย่างหนักเช่นกัน โดยลดลงต่ำกว่า 116,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 16.12 ล้านบาท) สะท้อนถึงบรรยากาศของตลาดที่เปลี่ยนจากภาวะขาขึ้นมาเป็นความไม่แน่นอน ส่งผลให้ทั้ง ETH และ BTC ต่างเคลื่อนไหวแบบไร้ทิศทางในดัชนีสำคัญต่าง ๆ
แม้การที่ *อีเธอเรียมมีการถือครองเชิงกลยุทธ์เพิ่มขึ้น* พร้อมด้วย *กระแสเงินทุนไหลเข้า ETF อย่างต่อเนื่อง* จะเป็นสัญญาณที่แสดงถึงความเชื่อมั่นในสินทรัพย์นี้ แต่ก็ยังไม่เพียงพอในการสร้างความเชื่อมั่นอย่างมั่นคงในหมู่นักลงทุน โดยเฉพาะในช่วงที่ตลาดยังไม่สามารถยืนยันทิศทางแน่ชัดได้
*ความคิดเห็น*: สถานการณ์ในตอนนี้ชี้ว่าตลาดคริปโตอาจยังคงเคลื่อนไหวอย่างผันผวนในระยะสั้น โดย ETH และ BTC อาจเคลื่อนไหวในกรอบราคาระหว่างแนวต้านด้านเทคนิคและแนวรับด้านจิตวิทยา นักลงทุนควรจับตาทั้งทิศทางของทุนจากสถาบันและพฤติกรรมของนักลงทุนรายย่อยซึ่งเป็นตัวกำหนดทิศทางของตลาดในระยะต่อไป
ความคิดเห็น 0