สหภาพยุโรป(EU) ได้อนุมัติ 10 ผู้ออก ‘สเตเบิลคอยน์’ ภายใต้กฎหมายกำกับดูแลตลาดสินทรัพย์ดิจิทัล (MiCA) แต่ ‘เทเธอร์(USDT)’ ซึ่งเป็นผู้ออกสเตเบิลคอยน์รายใหญ่ที่สุดกลับไม่อยู่ในรายชื่อ
แพทริก แฮนเซน (Patrick Hansen) ผู้อำนวยการกลยุทธ์และนโยบายของ ‘เซอร์เคิล(Circle)’ ในสหภาพยุโรป เปิดเผยรายชื่อบริษัทที่ได้รับการอนุมัติ ได้แก่ แบงกิ้ง เซอร์เคิล (Banking Circle), เซอร์เคิล(Circle), คริปโตดอทคอม (Crypto.com), เฟียต รีพับลิค (Fiat Republic), เมมเบรน ไฟแนนซ์ (Membrane Finance), ควานโตซ์ เพย์เมนต์ (Quantoz Payments), ชูแมน ไฟแนนเชียล (Schuman Financial), โซซิเอเต้ เจเนราล (Societe Generale), สเตบไออาร์ (StabIR) และ สเตเบิล มิ้นท์ (Stable Mint) รวม 10 แห่ง ซึ่งมีแผนออกสเตเบิลคอยน์ที่เชื่อมโยงกับเงินยูโร 10 สกุล และเงินดอลลาร์สหรัฐอีก 5 สกุล
อย่างไรก็ตาม ‘เทเธอร์ (USDT)’ ซึ่งครองตำแหน่งสเตเบิลคอยน์ที่มีมูลค่าตลาดสูงสุดระดับโลก กลับไม่ได้รับการอนุมัติ ทั้งที่ USDT มีมูลค่าตลาดสูงกว่า 141,000 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 5.07 ล้านล้านบาท) นี่อาจสะท้อนถึงแนวทางของ EU ที่พยายามควบคุมตลาดสกุลเงินดิจิทัลให้มีเสถียรภาพมากขึ้น แต่ขณะเดียวกัน ก็อาจส่งผลกระทบต่อผู้เล่นรายใหญ่ในอุตสาหกรรมด้วย
ก่อนการบังคับใช้กฎหมาย MiCA บางแพลตฟอร์มซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลได้เริ่มปลด USDT ออกจากรายการของตนสำหรับลูกค้าในสหภาพยุโรป ถือเป็นสัญญาณที่อาจส่งผลกระทบถึงสเตเบิลคอยน์อื่น ๆ ที่ใช้ดอลลาร์สหรัฐเป็นหลักประกัน หากไม่สามารถผ่านข้อกำหนดด้านการกำกับดูแลได้
ทางฝั่ง ‘เทเธอร์’ เองก็แสดงความไม่พอใจ โดยโฆษกบริษัทให้ความเห็นว่า "การตัดสินใจนี้เกิดขึ้นอย่างเร่งรีบและไม่มีเหตุผลที่ชัดเจน" ชี้ให้เห็นถึงความกังวลเกี่ยวกับแนวทางกำกับดูแลที่เข้มงวดขึ้นของสหภาพยุโรป
ด้านความคิดเห็นของผู้เชี่ยวชาญ สตีฟ แฮนกี (Steve Hanke) ศาสตราจารย์ด้านเศรษฐศาสตร์ ระบุว่า "การกำกับดูแลที่เข้มข้นเกินไปจะกลายเป็นอุปสรรคต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจและนวัตกรรม" ขณะที่ นาตาเลีย เยลงกา (Natalia Łątka) จาก เมอร์เคิล ไซแอนซ์ (Merkle Science) วิเคราะห์ว่า "กฎระเบียบ MiCA อาจทำให้บางบริษัทคริปโตต้องย้ายออกจาก EU"
ขณะเดียวกัน ‘สหราชอาณาจักร’ แม้จะยังไม่มีแนวทางการกำกับดูแลสินทรัพย์ดิจิทัลที่ชัดเจน แต่ก็ไม่ใช่จุดหมายปลายทางที่ชัดเจนสำหรับบริษัทที่ย้ายหนีจาก EU เนื่องจากความไม่แน่นอนด้านนโยบาย
ความคิดเห็น 0