Back to top
  • 공유 แชร์
  • 인쇄 พิมพ์
  • 글자크기 ขนาดตัวอักษร
ลิงก์ถูกคัดลอกแล้ว

XRP เลเชอร์ผงาดวงการแพทย์ในสหรัฐฯ ใช้งานจริงแล้วกว่า 6,500 ร้านยา

XRP เลเชอร์ผงาดวงการแพทย์ในสหรัฐฯ ใช้งานจริงแล้วกว่า 6,500 ร้านยา / Tokenpost

ระบบชำระเงินบนเครือข่าย XRP กำลังเข้าสู่ภาคการแพทย์อย่างจริงจัง หลังจาก *ธุรกิจเครือข่ายร้านขายยาในสหรัฐฯ ได้นำร่องใช้เทคโนโลยีดังกล่าวในกว่า 6,500 แห่งทั่วประเทศ* โดยเป็นผลงานร่วมกันระหว่างบริษัทจัดจำหน่ายยา เวลจิสติกส์ และบริษัทพัฒนาซอฟต์แวร์ RxERP ที่ได้ร่วมกันพัฒนา *ระบบการชำระเงินและการชำระบัญชีบน XRP เลเชอร์(XRP Ledger)*

ระบบใหม่นี้ช่วยให้ร้านขายยาและผู้ค้าส่งสามารถชำระค่ายาโดยตรงผ่านคริปโตได้ *โดยไม่ต้องผ่านกระบวนการโอนเงินผ่านธนาคารแบบเดิม* ทุกธุรกรรมจะถูกบันทึกบนบล็อกเชนของ XRP เพื่อให้เกิดความโปร่งใสและรวดเร็ว ซึ่งทางผู้พัฒนาเชื่อว่าจะช่วยปฏิรูปกระบวนการชำระเงินในอุตสาหกรรมยาได้อย่างมีนัยยะ

ไบรอัน นอร์ตัน ซีอีโอของเวลจิสติกส์ กล่าวย้ำว่า “ผู้ประกอบการร้านขายยาย่อยจริงๆ แล้วเข้าใจศักยภาพของบล็อกเชนดียิ่งกว่าที่เราคิดไว้มาก และการนำระบบนี้มาใช้จะกลายเป็นจุดเปลี่ยนของทั้งอุตสาหกรรม”

ระบบนี้ยังได้รับการปรับใช้ให้เป็นไปตาม *พระราชบัญญัติว่าด้วยการประกันสุขภาพแห่งสหรัฐอเมริกา หรือ HIPAA* และกฎหมายป้องกันการฟอกเงิน(AML) ซึ่งแสดงถึงความสอดคล้องกับข้อกำหนดด้านสุขภาพและการเงิน ทั้งยังเสริมความมั่นคงเชิงกฎหมายให้กับบริการอีกด้วย

แม้บล็อกเชนจะยังถูกมองเป็นเทคโนโลยีเกิดใหม่ในวงการแพทย์ แต่สถิติล่าสุดชี้ให้เห็นถึงการขยายตัวอย่างรวดเร็ว *จากมูลค่าตลาด 70.4 พันล้านดอลลาร์ในปี 2023 คาดว่าจะแตะ 214.86 พันล้านดอลลาร์ภายในปี 2030* ตามรายงานของ Grand View Research

ในขณะเดียวกัน การผสานเทคโนโลยี Web3 และการแพทย์ก็เป็นอีกแนวโน้มที่มาแรง วิทาดาว(VitaDAO) ซึ่งเป็นชุมชนวิจัยด้านการยืดอายุขัย ระบุชัดว่า *แนวคิดวิทยาศาสตร์แบบกระจายศูนย์(DeSci) สามารถยกระดับประสิทธิภาพการใช้ทุนและเร่งการพัฒนายาใหม่ได้* ขณะที่ แอชเชอร์ หลุย ผู้ร่วมก่อตั้ง BitDoctor.ai เสริมว่า หากนำโมเดลแบบกระจายมาใช้ในขั้นตอนการทดลองทางคลินิก ก็จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพได้เช่นกัน

ตลาดของโซลูชันเหล่านี้ก็กำลังเติบโตเช่นกัน โดย Market.us ระบุว่า *มูลค่าตลาดของการทดลองทางคลินิกแบบกระจายศูนย์ จะพุ่งจาก 8.3 พันล้านดอลลาร์ในปี 2023 เป็น 33 พันล้านดอลลาร์ในปี 2033*

อย่างไรก็ดี ความท้าทายยังคงอยู่ โดยเฉพาะ ‘กำแพงกฎระเบียบ’ ที่ทำให้บางโครงการหยุดชะงัก เช่น กรณีโครงการบล็อกเชนด้านการแพทย์ที่รัฐบาลเยอรมนีเป็นผู้นำ ถูกชะลอการพัฒนาเนื่องจากเงื่อนไขของ *กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลทั่วไปของยุโรป (GDPR)*

ในแง่ของการปรับตัวของบริษัทด้านการแพทย์ต่อคริปโตนั้นก็เริ่มเห็นชัดขึ้น เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา บริษัทชีววิทยาศาสตร์สัญชาติอเมริกันที่จดทะเบียนในตลาดหุ้นแนสแด็กอย่าง *ฟรีเนติกส์ โกลบอล* ได้เข้าซื้อ *บิตคอยน์(BTC) จำนวน 187 เหรียญ คิดเป็นประมาณ 20 ล้านดอลลาร์ (ราว 278 ล้านบาท)* ผ่านแพลตฟอร์ม Kraken พร้อมแต่งตั้ง *แอนดี้ เชิง อดีตประธานฝ่ายปฏิบัติการของ OKEx* ให้ดูแลกลยุทธ์ด้านคริปโตภายในองค์กร

ทางด้าน *บาเซล เมดิคอล กรุ๊ป* ผู้ให้บริการสุขภาพในสิงคโปร์ ก็เคยประกาศแผนสร้าง *เงินทุนสำรองในรูป ‘บิตคอยน์’ มูลค่า 1 พันล้านดอลลาร์ เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา* แม้ภายหลังราคาหุ้นจะร่วงลงถึง 15% สะท้อนความระมัดระวังของนักลงทุน

‘XRP เลเชอร์’ จึงกลายเป็นอีกหนึ่งกรณีศึกษาที่น่าจับตามองในเส้นทางการผสาน *บล็อกเชนเข้ากับเศรษฐกิจจริง* โดยเฉพาะในวงการแพทย์ที่มีความอ่อนไหวสูง และอาจเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญต่อการเร่งยอมรับทรัพย์สินดิจิทัลทั่วทั้งอุตสาหกรรมในอนาคต

<ลิขสิทธิ์ ⓒ TokenPost ห้ามเผยแพร่หรือแจกจ่ายซ้ำโดยไม่ได้รับอนุญาต>

บทความที่มีคนดูมากที่สุด

บทความที่เกี่ยวข้อง

ความคิดเห็น 0

ข้อแนะนำสำหรับความคิดเห็น

ขอบคุณสำหรับบทความดี ๆ ต้องการบทความติดตามเพิ่มเติม เป็นการวิเคราะห์ที่ยอดเยี่ยม

0/1000

ข้อแนะนำสำหรับความคิดเห็น

ขอบคุณสำหรับบทความดี ๆ ต้องการบทความติดตามเพิ่มเติม เป็นการวิเคราะห์ที่ยอดเยี่ยม
1