เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา โซลานา(SOL) กลายเป็นจุดสนใจของวงการคริปโตอีกครั้ง หลังสามารถทำสถิติความเร็วในการประมวลผลธุรกรรมบนเมนเน็ตทะลุ 100,000 รายการต่อวินาที (TPS) ได้สำเร็จ โดยเมิร์ต มัมทาซ(Mert Mumtaz) ผู้ร่วมก่อตั้งบริษัทพัฒนาเครื่องมือของโซลานาอย่างเฮลิอุส(Helius) เปิดเผยเมื่อวันที่ 23 (เวลาท้องถิ่น) ว่า เครือข่ายของโซลานาได้กลายเป็น *บล็อกเชนรายแรก* ที่สามารถประมวลผลธุรกรรมได้เกิน 100,000 รายการต่อวินาที ซึ่งนับเป็นความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีที่โดดเด่นในสมรภูมิของบล็อกเชนที่เน้นเรื่อง ‘การขยายตัว’
ตามข้อมูลจากมัมทาซ TPS ที่พุ่งขึ้นสูงสุดถึง *107,540 รายการ* นั้น เกิดจากบล็อกหนึ่งที่มีธุรกรรมทั้งหมด 43,016 รายการ และธุรกรรมที่ผิดพลาดอีก 50 รายการ ถูกประมวลผลพร้อมกันในเวลาเดียวกัน ตัวเลขนี้ถือว่าสูงกว่าพลตฟอร์มอื่นอย่างอีเธอเรียม(ETH) หรือทรอน(TRX) อย่างมีนัยสำคัญ และเป็นการตอกย้ำ *ศักยภาพทางเทคนิค* ของเครือข่ายโซลานา
อย่างไรก็ตาม รายงานชี้ว่าธุรกรรมส่วนใหญ่ในครั้งนี้ไม่ได้เป็นการชำระเงินหรือแลกเปลี่ยนโทเคนตามปกติ แต่เป็นคำสั่งประเภท ‘No-operation’ หรือที่เรียกว่า ‘Noop’ ซึ่งเป็นคำสั่งที่ไม่มีการคำนวณหรือเปลี่ยนสถานะจริง ใช้เพียงเพื่อตอบสนองโครงสร้างของระบบที่กำหนดให้ทุกธุรกรรมต้องมีอย่างน้อยหนึ่งคำสั่ง โดย ‘Noop’ เหล่านี้มักจะถูกใช้เพื่อทดสอบ *ขีดความสามารถสูงสุดของเครือข่าย*
หมายความว่า TPS ที่บันทึกได้นั้น อาจไม่ได้สะท้อนประสิทธิภาพในสภาพแวดล้อมที่ใช้งานจริงโดยตรง เช่น ในการเรียกใช้งาน DApp หรือการส่งผ่านโทเคนโดยผู้ใช้ทั่วไป จึงควรพิจารณาตัวเลขดังกล่าวอย่างมีวิจารณญาณ
อย่างไรก็ดี แม้จะเป็นธุรกรรมทดลอง แต่การที่โซลานาสามารถแสดงศักยภาพระดับนี้ *บนเครือข่ายจริง* ได้เป็นครั้งแรก ก็ถือเป็นก้าวสำคัญในด้านเทคโนโลยีที่ไม่อาจมองข้ามได้ ความคาดหวังจากนักลงทุนและผู้พัฒนาคือ โซลานาอาจนำความสามารถนี้ไปใช้ในแวดวงที่ต้องการ TPS สูง เช่น การชำระเงินแบบเรียลไทม์, เกม หรือเครือข่ายโซเชียลในอนาคต ความสำเร็จในครั้งนี้จึงไม่เพียงแต่สร้าง *สถิติใหม่* เท่านั้น แต่อาจกลายเป็นจุดเริ่มต้นของการประยุกต์ใช้ที่กว้างขวางยิ่งขึ้นในตลาดคริปโตต่อไป
ความคิดเห็น 0