สำนักงานกำกับดูแลการเงินแห่งลักเซมเบิร์กได้อนุมัติใบอนุญาต ‘ตัวแทนควบคุม (Controlling Agent)’ ให้กับบริษัทด้านสินทรัพย์ดิจิทัลสัญชาติลักเซมเบิร์กอย่างอินเวสเตร (Investre) ซึ่งนับเป็นใบอนุญาตอย่างเป็นทางการฉบับแรกของประเทศที่เปิดทางให้บริษัทสามารถดูแลและจัดการ *โทเคนสินทรัพย์* ได้โดยตรง ความเคลื่อนไหวนี้ถือเป็นหนึ่งในยุทธศาสตร์ของลักเซมเบิร์กในการผลักดันการ ‘*แปลงกองทุนสู่ดิจิทัลสำหรับนักลงทุนรายย่อย*’ อย่างจริงจัง
ลักเซมเบิร์กขึ้นชื่อว่าเป็นศูนย์กลางกองทุนที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของยุโรป โดยบริหารสินทรัพย์มากถึง 7.3 ล้านล้านยูโร (ประมาณ 1.926 ล้านล้านบาท) หรือราวหนึ่งในสี่ของมูลค่ากองทุนรวมทั้งหมดในยุโรป และแม้จะมีประชากรไม่มาก แต่ประเทศนี้ก็มีบทบาทสำคัญในระบบนิเวศของการจัดการสินทรัพย์
เมื่อปลายปี 2024 ลักเซมเบิร์กได้ประกาศใช้ ‘*กฎหมายบล็อกเชนฉบับที่ 4*’ ซึ่งเป็นชุดกฎหมายใหม่ที่รองรับระบบ *กองทุนดิจิทัลและหลักทรัพย์บนเชน* โดยขยายขอบเขตของการออกหลักทรัพย์บนบล็อกเชนจากพันธบัตรเอกชนไปสู่ *หุ้นและกองทุน* อย่างเต็มรูปแบบ พร้อมกับแนะนำบทบาทของ *Controlling Agent* หรือ *ตัวแทนควบคุม* ที่สามารถปฏิบัติหน้าที่เป็นสื่อกลางแทนการมี *องค์กรรับฝากกลาง (CSD)* แบบเดิม
Controlling Agent จะทำหน้าที่ดูแลบัญชีการออกสินทรัพย์ ตรวจสอบให้ข้อมูลสินทรัพย์ที่ออกตรงกันกับข้อมูลบน Distributed Ledger Technology (DLT) และหากต้องมีการรับฝากทรัพย์สินก็สามารถกำกับดูแลโครงสร้างดังกล่าวได้ *โดยไม่ต้องพึ่งพาตัวกลางแบบดั้งเดิม* ซึ่ง *ช่วยลดต้นทุนและความซับซ้อนมหาศาล* เมื่อเทียบกับโครงสร้างทางการเงินแบบเก่า
อินเวสเตรซึ่งเป็นผู้ได้รับใบอนุญาตฉบับแรกในครั้งนี้ มีใบอนุญาตให้ดำเนินธุรกิจการเงิน MiFID ของยุโรปอยู่ก่อนแล้ว และมีความร่วมมือกับบริษัทจัดการกองทุนรายใหญ่ เช่น ชรูเดอร์ส และนอร์เดีย ปัจจุบันบริษัทได้ทำการสร้างและทำลาย *โทเคนกองทุน* ไปแล้วกว่า 3,000 รายการ แต่ที่ผ่านมาเน้นเฉพาะการโทเคนกองทุนที่อิงกับสินทรัพย์จริงเท่านั้น ทว่าพร้อมขยายสู่ *กองทุนดิจิทัลแบบเนทีฟ (Native Digital Fund)* หลังได้รับใบอนุญาตใหม่
ในแง่เทคโนโลยี อินเวสเตรดำเนินการอยู่บนบล็อกเชนของ *สเตลลาร์(Stellar)* แพลตฟอร์มหลัก แต่มีแผนเพิ่ม *ความสามารถในการทำงานร่วมกับบล็อกเชนที่รองรับ EVM และเชนอื่นๆ* เพื่อสร้างระบบ Cross-chain ที่แข็งแกร่ง รองรับการโอนถ่ายสินทรัพย์ข้ามบล็อกเชนซึ่งจะช่วยยกระดับการซื้อขายในตลาดรอง ทั้งนี้ แนวทางดังกล่าวยังสอดคล้องกับเป้าหมายด้านความยั่งยืนของบริษัทอีกด้วย
การออกใบอนุญาตในครั้งนี้สะท้อนให้เห็นถึงทิศทางของนโยบายด้าน *สินทรัพย์ดิจิทัลในยุโรป* ที่เน้นการผลักดันระบบ ‘*ไร้ตัวกลาง*’ ซึ่งสามารถนำไปใช้จริงได้ และอาจกลายเป็นแบบอย่างสำคัญสำหรับประเทศอื่นๆ ที่ต้องการพัฒนา *โครงสร้างการออกโทเคนกองทุนแบบไม่พึ่งพาสถาบันกลาง* ในอนาคต ความเคลื่อนไหวจากลักเซมเบิร์กในครั้งนี้จึงมีโอกาสส่งผลสะเทือนไปทั่วทั้งภูมิภาค
ความคิดเห็น 0