วิตาลิก บูเตอริน(Vitalik Buterin) ผู้ร่วมก่อตั้งอีเธอเรียม(ETH) ได้แสดงความ *กังวลต่ออนาคตของปัญญาประดิษฐ์(AI)* อีกครั้ง โดยเน้นถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดจาก ‘ระบบ AI ที่มีสติปัญญาระดับสูง’ แต่ขาดแนวทางด้านจริยธรรมที่ชัดเจน
ข้อกังวลนี้เกิดขึ้นหลังมีการอภิปรายในแพลตฟอร์ม X ซึ่งผู้ใช้งานคนหนึ่งตั้งข้อสังเกตว่าปัจจุบัน *นักพัฒนา AI จดจ่อเพียงประสิทธิภาพของโมเดล* มากกว่าการทำให้ AI มีค่านิยมสอดคล้องกับมนุษย์ บูเตอรินเข้าร่วมการอภิปรายโดยตั้งคำถามว่า “ในเมื่อสังคมมนุษย์เองยังขาดมาตรฐานจริยธรรมที่ชัดเจน เราจะมั่นใจได้อย่างไรว่า AI ที่มนุษย์สร้างขึ้นจะไม่ทำร้ายผู้บริสุทธิ์?”
เขาย้ำว่า เทคโนโลยียังไม่สามารถ ‘จัดระเบียบ AI ให้อยู่ในกรอบจริยธรรม’ ได้อย่างแท้จริง โดยกล่าวว่า “แม้การจำคุกหรือเอาชีวิตผู้บริสุทธิ์จะขัดกับค่านิยมมนุษย์อย่างชัดเจน แต่เรายังไม่สามารถป้องกันได้ด้วยวิธีการเทคโนโลยีที่เหมาะสมในปัจจุบัน” บูเตอรินยังกล่าวถึง *ระบบ AI ที่มีปัญญาสูงและควบคุมได้โดยคนหรือองค์กรเดียว* (singleton superintelligent AI) ว่า อาจยิ่งทำให้สถานการณ์แย่ลง เพราะไม่อาจรับประกันว่าจะหลีกเลี่ยงผลกระทบทางลบได้
ด้านอีลอน มัสก์(Elon Musk) ซึ่งเป็นอีกหนึ่งบุคคลที่เคยถกเถียงเรื่อง AI กับ *ประธานาธิบดีทรัมป์* หลายครั้ง ออกมาแสดงความเห็นตรงข้าม เขาคาดการณ์ว่า AI จะนำไปสู่ ‘รายได้สูงแบบครอบคลุม (universal high income)’ สำหรับประชาชนทั่วไป แทนที่จะเป็นเพียงรายได้พื้นฐาน ทั้งยังเสริมว่า ระบบสุขภาพ ที่อยู่อาศัย อาหาร และบริการขนส่งจะเข้าถึงได้ในระดับสูง ส่งผลให้ชีวิตมนุษย์มีคุณภาพดีกว่าที่เคย
มัสก์ยังแสดงมุมมองว่า ในอนาคต *จำนวนหุ่นยนต์ AI จะมีมากกว่ามนุษย์* และทุกคนอาจเป็นเจ้าของหุ่นยนต์อัจฉริยะแบบ *C3PO หรือ R2D2* จากภาพยนตร์ Star Wars ได้ในชีวิตจริง
ความคิดเห็นที่แตกต่างกันของบูเตอรินและมัสก์จึงสะท้อนให้เห็นถึง *ทิศทางที่เทคโนโลยีอาจเดินหน้า* ไปในมุมมองที่หลากหลาย พร้อมทั้งเปิดประเด็นสำคัญเกี่ยวกับความ *เป็นไปได้ในการอยู่ร่วมกันระหว่างมนุษย์กับ AI* ซึ่งจะมีบทบาทสำคัญในกรอบนโยบายและธรรมาภิบาลทางจริยธรรมสำหรับ AI ในอนาคตอย่างไม่ต้องสงสัย
ความคิดเห็น 0