ริปเปิล(XRP) กำลังได้รับความสนใจอย่างล้นหลามจากนักลงทุน หลังราคาขยับใกล้แนวต้าน ‘3 ดอลลาร์’ ซึ่งถูกมองว่าเป็นระดับ ‘แรงต้านทางจิตวิทยา’ ที่แข็งแกร่ง จากการวิเคราะห์โดยใช้เครื่องมือ *โบลลินเจอร์แบนด์* สะท้อนว่าราคาในจุดนี้ไม่ใช่แค่แนวต้านทางเทคนิคธรรมดา แต่เป็นจุดชี้วัดความเชื่อมั่นของตลาด โดยแม้ XRP จะเคยดีดตัวแตะใกล้ระดับ 3 ดอลลาร์ แต่ก็ยังไม่สามารถฝ่าแนวต้านนี้ได้อย่างชัดเจน ทำให้ทิศทางขาขึ้นหยุดชะงัก
ข้อมูลจากกราฟชี้ว่า XRP กำลังทดสอบทิศทางที่ระดับ *ประมาณ 3.09 ดอลลาร์ (ราว 4,290 บาท)* ซึ่งเป็นเส้นกลางของโบลลินเจอร์แบนด์ หากไม่สามารถยืนเหนือระดับนี้ได้ อาจเกิดการพักฐานลงมาแถว *2.60 ดอลลาร์ (ราว 3,610 บาท)* หรือในกรณีที่เลวร้ายที่สุดอาจร่วงสู่โซน *2 ดอลลาร์ (ราว 2,780 บาท)* ได้เช่นกัน นักวิเคราะห์ระบุว่า "ระดับ 3 ดอลลาร์อาจเป็น 'กับดัก' สำหรับนักลงทุน" พร้อมเตือนให้ควรพิจารณาอย่างรอบคอบ
ในอีกด้านหนึ่ง แชรส ฮอสกินสัน(Charles Hoskinson) ผู้ร่วมก่อตั้งคาร์ดาโน ได้เปิดเผยแผนการร่วมมือใหม่กับซีอีโอของริปเปิล แบรด การ์ลิงเฮาส์(Brad Garlinghouse) โดย *เตรียมผนวกรวม XRP เข้ากับกระเป๋าเงิน Lace ของคาร์ดาโน* ซึ่งมีกำหนดการรองรับ XRP ภายในสิ้นปีนี้ตามคำยืนยันจากการพูดคุยในเซสชัน AMA บน YouTube การขยายการรองรับสินทรัพย์จากเดิมที่มีเพียงบิตคอยน์(BTC) ไปยัง XRP ถือเป็นก้าวสำคัญที่อาจช่วยยกระดับการใช้งานในระบบนิเวศของ XRP ในอนาคต
ขณะเดียวกัน เหรียญมีมชื่อดังอย่างชิบะอินุ(SHIB) ก็แสดงสัญญาณฟื้นตัวในกราฟรายชั่วโมง ด้วยการเกิด *โกลเด้นครอส (Golden Cross)* หรือการที่เส้นค่าเฉลี่ยระยะสั้นตัดขึ้นเหนือเส้นค่าเฉลี่ยระยะยาว ซึ่งเป็นสัญญาณทางเทคนิคที่มักบ่งชี้ถึงแนวโน้มขาขึ้น การดีดตัวของ SHIB เกิดขึ้นท่ามกลางกระแสคาดการณ์การปรับลดอัตราดอกเบี้ยของเฟด หลัง *เจอโรม พาวเวลล์* ประธานธนาคารกลางสหรัฐมีท่าทีผ่อนคลายทางการเงิน ส่งผลให้นักลงทุนเข้าสะสมก่อนที่ SHIB จะขึ้นแตะ *0.0000135 ดอลลาร์ (ราว 0.019 บาท)* อย่างไรก็ดี แรงขายเพื่อทำกำไรได้ฉุดราคาตกลง พร้อมดึงเหรียญกลับเข้าสู่ช่วงพักฐาน
แม้ทั้ง XRP, SHIB และโครงการของคาร์ดาโนจะมีปัจจัยบวกเฉพาะตัวและสัญญาณเชิงเทคนิคที่แตกต่างกัน แต่ก็ ‘มีจุดร่วม’ คือการต้องอาศัยแรงขับเคลื่อนจาก *สภาวะตลาดรวม* เพื่อดำเนินแรลลี่ช่วงสั้นต่อไปได้ ซึ่งในภาวะปัจจุบัน การประเมินตัวแปรภายนอกและการเปลี่ยนแปลงกฎระเบียบทั่วโลก จะมีบทบาทสำคัญอย่างยิ่ง ข้อมูลสภาพคล่องและระดับความเชื่อมั่นจากนักลงทุนจะยังคงเป็นดัชนีชี้นำทิศทางที่ตลาดจะเคลื่อนไป
ความคิดเห็น 0