บิตคอยน์(BTC) ยังคงเผชิญแรงกดดัน หลังร่วงหลุดระดับแนวต้านเดิมที่ ‘109,300 ดอลลาร์’ (ราว 15.16 ล้านบาท) จนตลาดเริ่มตั้งคำถามว่าราคาจะยังคงแนวโน้มขาขึ้นได้หรือไม่ ปัจจุบัน ราคาบิตคอยน์ปรับลดลงจากจุดสูงสุดล่าสุดไปแล้วประมาณ 13% และกำลังหาทิศทางภายใต้ ‘แนวรับทางจิตวิทยา’
บรรดานักลงทุนเริ่มแสดง ‘ความกังวลต่อสัญญาณการพังทะลุของอินดิเคเตอร์ทางเทคนิค’ โดยเฉพาะค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ทั้งแบบ SMA และ EMA ในหลายช่วงสำคัญที่อาจกำลังเปลี่ยนจากแนวรับไปเป็นแนวต้าน นักลงทุนชื่อดังอย่าง ‘คริปโตฟอริก’ (Cryptorphic) ให้ความเห็นว่า “การที่บิตคอยน์ลดลงต่ำกว่าเส้น EMA 100 วันในกราฟรายวันนั้น ถือเป็น ‘สัญญาณลบ’ และมีโอกาสจะปรับฐานต่อไปจนถึงระดับ 103,000 ดอลลาร์ (ราว 14.31 ล้านบาท) ในระยะสั้น”
คริปโตฟอริกชี้ว่า “หากย้อนดูในอดีต การปรับลงต่ำกว่าแนวดังกล่าวมักทำให้เกิดแนวโน้มขาลงในช่วงสั้น” เขายังเน้นว่า หากบิตคอยน์ต้องการรักษาแนวโน้มขาขึ้นต่อไป จำเป็นต้องฟื้นตัวกลับขึ้นไปเหนือเส้นค่าเฉลี่ยนี้อีกครั้ง
แรงเทขายรอบล่าสุดยังเกิดขึ้นใกล้ช่วงที่ประธานาธิบดีทรัมป์เข้ารับตำแหน่งเมื่อเดือนมกราคม ซึ่งเป็นช่วงเกิดจุดสูงสุดของบิตคอยน์ ทำให้หลายฝ่ายจับตาว่า เหตุการณ์นี้อาจบอกใบ้ถึง ‘การสิ้นสุดของช่วงบูม’ เล็กๆ และเสริมความกลัวว่าแนวรับจิตวิทยาอาจพังทะลุ พร้อมๆ กับกระแสตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของปัจจัยพื้นฐานในตลาดที่สูงขึ้น
สถานการณ์ล่าสุดจึงส่งผลให้ตลาดคาดว่าการดีดกลับของราคาบิตคอยน์ภายในไม่กี่วันข้างหน้า อาจกลายเป็นปัจจัย ‘ชี้ขาดแนวโน้มระยะกลางถึงยาว’ โดย ‘การฟื้นตัวทางเทคนิค’ กำลังถูกมองว่าเป็น ‘ตัวแปรสำคัญ’ ในการกำหนดทิศทางต่อไปของบิตคอยน์
ความคิดเห็น 0