ราคาอีเธอเรียม(ETH) ร่วงลงกว่า 13% ภายในเวลาเพียงหนึ่งสัปดาห์ แต่ในบรรยากาศที่นักลงทุนยังลังเลและไม่แน่ใจกับทิศทางตลาด กลับมีสัญญาณที่ถูกมองว่าเป็น *สัญญาณเชิงบวก* ปรากฏขึ้น เมื่อนักลงทุนรายใหญ่ที่ไม่เคลื่อนไหวมานานกว่า 4 ปี ได้กลับเข้าซื้อ ETH มูลค่าราว 2,808 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 38,200 ล้านบาท ท่ามกลางความผันผวนในตลาด การเคลื่อนไหวนี้จึงถูกตีความว่าเป็น ‘จังหวะซื้อเมื่อราคาตกต่ำ’
ตามข้อมูลของนักวิเคราะห์ด้านออนเชนอย่าง CryptoGoos เปิดเผยเมื่อวันที่ 24 ระบุว่า กระเป๋าเงินดังกล่าวได้โอน ETH จำนวน 6,334 เหรียญ (ราว 38,200 ล้านบาท) ออกจากคราเคน(Kraken) ภายในระยะเวลาเพียง 1 ชั่วโมงในวันอังคารที่ผ่านมา น่าสังเกตว่ากระเป๋านี้ไม่มีประวัติทำธุรกรรมขนาดใหญ่มาตั้งแต่ปี 2021 ก่อนจะกลับมาซื้อขายอีกครั้งในรอบนี้ ซึ่งสร้างความสนใจในหมู่นักลงทุนอีกครั้ง
ไม่เพียงแค่กระเป๋าเงินรายใหญ่รายนี้เท่านั้น แต่ยังมีข้อมูลว่า *บรรดาบริษัทคริปโตรายใหญ่และกองทุน ETF* ก็กำลังเร่งเข้าซื้ออีเธอเรียมในปริมาณมหาศาล Bloomberg รายงานว่า หนึ่งในนั้นคือบริษัทเหมืองขุดดิจิทัลชื่อดังอย่าง *บิทไมน์(BitMine)* ที่ได้ร่วมมือกับนักลงทุนรายใหญ่ในการสะสม ETH มูลค่าหลายพันล้านบาท สะท้อนให้เห็นว่าความต้องการจากสถาบันต่ออีเธอเรียมยังคงอยู่ในระดับสูง
นักวิเคราะห์ตลาดยังชี้ว่า กราฟราคาอีเธอเรียมในปัจจุบันกำลังแสดง ‘รูปแบบฟื้นตัวแบบตัว V’ ซึ่งอาจหมายถึงการดีดตัวกลับของราคาที่รุนแรงในระยะเวลาอันสั้น โดยผู้เชี่ยวชาญบางรายคาดการณ์ว่าหากสถานการณ์ฟื้นตัวเป็นไปตามรูปแบบนี้ ETH อาจพุ่งสูงขึ้นสู่ระดับ 7,500 ดอลลาร์ (ประมาณ 1,042,000 บาท) จนถึง 20,000 ดอลลาร์ (ราว 2,780,000 บาท) ในอนาคตข้างหน้า *ความคิดเห็น* อย่างไรก็ดี การฟื้นตัวในระดับนี้จำเป็นต้องได้รับแรงสนับสนุนจากปัจจัยภายนอกอย่างการอนุมัติ ETF และการฟื้นตัวของโมเมนตัมในตลาดกว้าง
แม้ว่าราคาในปัจจุบันจะอยู่ในช่วงขาลง แต่นักลงทุนรายใหญ่และสถาบันจำนวนไม่น้อยยังคงเดินหน้าซื้ออีเธอเรียมต่อไป โดยมีเป้าหมาย 2 ประการ ได้แก่ การวางตำแหน่งล่วงหน้าก่อนการอนุมัติ ETF แบบสปอต และการถือครองเพื่อประโยชน์ในอนาคตจากการขยายตัวของระบบนิเวศดิไฟ(DeFi) และเลเยอร์ 2 สิ่งเหล่านี้บ่งบอกว่า แม้ราคาจะผันผวนในระยะสั้น แต่ ‘พื้นฐานของอีเธอเรียม’ ยังคงแข็งแกร่งในระยะยาว
ความคิดเห็น 0