เซอร์เคิล(Circle) ผู้พัฒนาเหรียญสเตเบิลคอยน์ชื่อดังอย่าง *ยูเอสดีคอยน์(USDC)* เดินหมากใหญ่สู่ระบบการชำระเงินระดับโลก ด้วยการจับมือเป็นพันธมิตรเชิงกลยุทธ์กับบริษัทการเงินยักษ์ใหญ่อย่างมาสเตอร์การ์ด(MA) และฟินเทคระดับโลกอย่างฟินาสตรา(Finastra) หวังผสาน *USDC* เข้ากับระบบธนาคารและร้านค้าทั่วโลก
เมื่อวันที่ 24 มาสเตอร์การ์ดเปิดตัวบริการใหม่ รองรับการชำระเงินด้วย *USDC* และยูโรคอยน์(EURC) สำหรับผู้ค้าและผู้ให้บริการชำระเงินในภูมิภาคยุโรปตะวันออก, ตะวันออกกลาง และแอฟริกา (EEMEA) ความร่วมมือนี้จะช่วยให้เกิด ‘การชำระแบบเรียลไทม์ด้วยสเตเบิลคอยน์’ เป็นครั้งแรกในพื้นที่ โดยมีอาหรับไฟแนนเชียลเซอร์วิส (Arab Financial Services) แห่งบาห์เรน และอีซี่ไฟแนนเชียลเซอร์วิส (Eazy Financial Services) แห่งซาอุดิอาระเบีย เป็นผู้ใช้งานเบื้องต้น ถือเป็นการปูพื้นฐานโครงสร้าง ‘*การชำระเงินด้วยสเตเบิลคอยน์ผ่านระบบของมาสเตอร์การ์ดเป็นครั้งแรกในภูมิภาคนี้*’
พร้อมกันนี้ ฟินาสตราซึ่งมีสำนักงานใหญ่ในลอนดอน ได้ประกาศรวม *USDC* เข้ากับระบบชำระเงินระดับโลก Global PAYplus ซึ่งรองรับธุรกรรมมากกว่า 5 ล้านล้านดอลลาร์ต่อวัน ความร่วมมือครั้งนี้จะเปิดทางให้ธนาคารกว่า 50 ประเทศสามารถใช้ *USDC* ควบคู่กับสกุลเงินดั้งเดิม เพื่อชำระเงินข้ามประเทศแบบเรียลไทม์โดยไม่กระทบโครงสร้างเดิม
การขยับตัวของเซอร์เคิลในครั้งนี้มาพร้อมกับแรงส่งจาก ‘กฎหมาย GENIUS’ ที่เพิ่งผ่านการอนุมัติจากสภาคองเกรสสหรัฐฯ ซึ่งถือเป็น ‘กรอบกฎหมายฉบับแรกสำหรับสเตเบิลคอยน์ในระดับรัฐบาลกลาง’ โดยมีเป้าหมายดึงสินทรัพย์ดิจิทัลเข้าสู่ภาคการเงินภายใต้กฎหมายอย่างเป็นทางการ ล่าสุดเมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม เซอร์เคิลยังจับมือกับ OKX เปิดฟีเจอร์แปลง *USDC เป็นดอลลาร์สหรัฐโดยไม่มีค่าธรรมเนียม* ทำให้ผู้ใช้งานในเอเชีย ตะวันออกกลาง และยุโรปมีทางเลือกด้านความคล่องตัวในการใช้ *USDC* สำหรับจ่ายเงินหรือโอนระหว่างประเทศมากยิ่งขึ้น
ความร่วมมือนี้สะท้อนให้เห็นถึงบทบาทที่เติบโตของ ‘*สเตเบิลคอยน์ในระบบการเงินโลก*’ โดยเฉพาะ *USDC* ที่กำลังก้าวข้ามบทบาทจากสินทรัพย์ดิจิทัล มาเป็นกลไกใหม่ภายในโครงสร้างการเงินดั้งเดิม ความเคลื่อนไหวของเซอร์เคิลกำลังเปิดประตูให้กับยุคใหม่ของการชำระเงิน และอาจเป็นจุดตัดสำคัญว่า *USDC* จะกลายเป็นหนึ่งในเสาหลักของระบบการเงินโลกในอนาคตหรือไม่ — *ความคิดเห็น*
ความคิดเห็น 0