สำนักงานกฎหมายเพนวิกแอนด์เวสต์(Fenwick & West) ของสหรัฐฯ ออกมาปฏิเสธข้อกล่าวหาอย่างสิ้นเชิง หลังถูกระบุในคดีฟ้องร้องแบบกลุ่มโดยนักลงทุนของตลาดซื้อขายคริปโตชื่อดังอย่างเอฟทีเอ็กซ์(FTX) ว่ามีบทบาทสำคัญต่อการฉ้อโกงครั้งใหญ่ในประวัติศาสตร์คริปโต
คดีดังกล่าวเริ่มต้นจากการฟ้องร้องแบบกลุ่มในปี 2023 โดยผู้ใช้เอฟทีเอ็กซ์ และล่าสุดได้มีการร้องขอให้ปรับปรุงเนื้อหาในคดีต่อศาลแขวงของรัฐบาลกลางในรัฐฟลอริดา สหรัฐฯ โดยในคำร้องที่อัปเดตต้นเดือนที่ผ่านมา ฝ่ายโจทก์ระบุว่ามี ‘ข้อมูลภายในใหม่’ ที่ได้จากกระบวนการล้มละลายและคดีอาญา ซึ่งชี้ว่าเพนวิกมีส่วนเกี่ยวข้องอย่างลึกซึ้งใน ‘รูปแบบและแรงจูงใจของการฉ้อโกง’ ที่เกิดขึ้น
อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 17 (เวลาท้องถิ่น) เพนวิกได้ยื่นเอกสารต่อศาลเพื่อขอให้ยกคำร้องดังกล่าว โดยระบุว่า คำกล่าวหานั้น ‘อ้างอิงทฤษฎีที่เบาบางและไม่ถูกต้อง’ พร้อมยืนยันว่า “เพนวิกให้บริการด้านกฎหมายปกติและถูกกฎหมายแก่ลูกค้าเท่านั้น ไม่เคยมีส่วนร่วม หรือรับรู้การกระทำฉ้อโกงแต่อย่างใด” นอกจากนี้ยังระบุว่า การพยายามโยงสำนักงานกฎหมายเข้ากับการสมรู้ร่วมคิดเพียงเพราะทำหน้าที่ให้คำปรึกษา ถือเป็นเรื่องที่ ‘ไม่ยุติธรรม’
ฝ่ายโจทก์ยืนยันว่าหลักฐานใหม่ที่ยื่นต่อศาลมีความน่าเชื่อถือ เพราะได้มาจากเอกสารในกระบวนการล้มละลาย โดยเฉพาะเอกสารภายในของเอฟทีเอ็กซ์ แต่เพนวิกได้ตอบโต้ว่า ข้อมูลเหล่านี้คือ ‘ข้อมูลเก่าแก่ที่คนในวงการรู้กันมานาน’ และไม่ได้ให้แง่มุมใหม่ที่มีน้ำหนักทางกฎหมายใด ๆ ทั้งยังอาจสร้างความเข้าใจผิดได้ เนื่องจากขาดบริบทโดยรอบ
ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้ผู้ใช้เอฟทีเอ็กซ์เคยฟ้องสำนักงานกฎหมายซัลลิแวนแอนด์ครอมเวลล์ (Sullivan & Cromwell) ที่เคยให้คำปรึกษากับเอฟทีเอ็กซ์เช่นกัน แต่คดีถูกถอนฟ้องไปเนื่องจากขาดหลักฐาน
การล่มสลายของเอฟทีเอ็กซ์ในปลายปี 2022 นำไปสู่การฟ้องร้องแบบกลุ่มที่พุ่งเป้าไปยังบุคคลมีชื่อเสียงและบริษัทพันธมิตรจำนวนมาก การตอบโต้ของผู้ถูกฟ้องอย่างรุนแรง รวมถึงของเพนวิกในครั้งนี้ ทำให้การตัดสินของศาลรัฐบาลกลางสหรัฐฯ ได้รับความสนใจอย่างสูงในวงการคริปโตและกฎหมายสหรัฐฯ ท่ามกลางคำถามว่า ‘ความรับผิดชอบของผู้ให้คำปรึกษาจะไปไกลแค่ไหน’
ความคิดเห็น 0