ลูกค้าเก่าของ FTX เตรียมยื่นคำร้องแก้ไขคำฟ้องต่อบริษัทกฎหมาย 'เฟนวิกแอนด์เวสต์(Fenwick & West)' โดยกล่าวหาว่าเป็นผู้มีบทบาทสำคัญในการเอื้อให้เกิดการฉ้อโกงครั้งใหญ่ของ FTX คำร้องฉบับใหม่อ้างอิงข้อมูลหลักฐานล่าสุดซึ่งได้มาจากกระบวนการล้มละลายของ FTX และการพิจารณาคดีอาญาของอดีตซีอีโอ แซม แบงก์แมน-ฟรายด์(Sam Bankman-Fried)
เมื่อวันที่ 24 (เวลาท้องถิ่น) กลุ่มผู้เสียหายได้ยื่นเอกสารต่อศาลสหรัฐ โดยระบุในคำฟ้องปรับปรุงว่า 'เฟนวิก' ไม่เพียงมีบทบาทเป็นที่ปรึกษากฎหมาย แต่ยัง *ออกแบบและอนุมัติโครงสร้างหลักที่ทำให้การฉ้อโกงของ FTX เป็นไปได้* ส่งผลให้บริษัทกฎหมายดังกล่าวให้ ‘การสนับสนุนในระดับสำคัญ’ แก่ FTX กลุ่มโจทย์ยังกล่าวว่า “สาเหตุเดียวที่ FTX สามารถดำเนินกิจกรรมฉ้อโกงได้ก็เพราะเฟนวิกเป็นผู้วางโครงสร้างและกลไกที่รองรับ”
คำฟ้องฉบับปรับปรุงยังชี้ว่า เฟนวิกมีส่วนในการออกแบบและบริหาร *บริษัทในเครือซึ่งมีความขัดแย้งทางผลประโยชน์อย่างชัดเจน* เช่น อลามีดา รีเสิร์ช(Alameda Research) และนอร์ธไดเมนชัน(North Dimension) ซึ่งถูกใช้ในการเคลื่อนย้ายเงินของลูกค้าเป็นมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ โดยไร้มาตรการป้องกันใดๆ อย่างเหมาะสม นอร์ธไดเมนชันยังเคยตกเป็นเป้าสงสัยว่ามีส่วนพัวพันกับการฟอกเงิน และกลับมาเป็นประเด็นอีกครั้งในคำร้องล่าสุด
กรณี FTX ถูกยกให้เป็นหนึ่งในคดีฉ้อโกงทางการเงินที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์สหรัฐ โดยเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการฟ้องร้องแบบกลุ่มที่เริ่มต้นขึ้นจากการล่มสลายของ FTX ในปลายปี 2022 กลุ่มจำเลยในคดีนี้ครอบคลุมทั้ง *บุคคลสาธารณะชื่อดังที่เคยมีส่วนร่วมโฆษณา FTX* ไปจนถึง *บริษัทพันธมิตรที่ถูกกล่าวหาว่ามีความเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ฉ้อโกง*
คำร้องปรับปรุงครั้งนี้ถูกมองว่าเป็นจุดเริ่มต้นของความพยายาม *เอาผิดเฟนวิกแอนด์เวสต์อย่างจริงจังในขั้นตอนถัดไป* ขณะนี้บริษัทกฎหมายยังไม่ได้ให้ความเห็นต่อสาธารณะ และศาลจะพิจารณาคำขอแก้ไขตามบันทึกคดีที่มีอยู่
‘เฟนวิกแอนด์เวสต์’ กำลังเผชิญความเสี่ยงทางกฎหมายที่เพิ่มขึ้นจากบทบาทในคดียุ่งเหยิงของ FTX ซึ่ง ‘ความคิดเห็น’ ระบุว่าอาจส่งผลต่อแนวทางการทำงานของที่ปรึกษากฎหมายกับบริษัทด้านคริปโตในอนาคต
ความคิดเห็น 0