แพลตฟอร์มการลงทุนคริปโต ‘ยูนิคอยน์(Unicoin)’ ได้ออกแถลงการณ์ตอบโต้ต่อคดีฟ้องร้องจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐ (SEC) อย่างเป็นทางการ โดยภายหลังจากเงียบงันไปนานกว่า 3 เดือน ยูนิคอยน์ได้ยื่นคำร้องต่อศาลแขวงกลางนิวยอร์กเมื่อวันที่ 24 (เวลาท้องถิ่น) เพื่อให้ศาล *ยกฟ้องคดีดังกล่าว* พร้อมกล่าวหา SEC ว่าจงใจ *บิดเบือนคำแถลงการณ์และประมาณการทางการเงิน* ของบริษัท
ยูนิคอยน์ระบุว่า “SEC ได้เลือกนำคำพูดบางช่วงมาอย่างมีอคติ และ *แยกบริบททั้งหมดอันพึงเข้าใจออกไป* เพื่อสร้างความเข้าใจผิดว่าเราโกหก” ทั้งยังเพิ่มเติมว่า “แม้แต่การคาดการณ์ทางการเงินตามปกติ ก็ยังถูกมองว่าเป็นพฤติกรรมหลอกลวง โดยที่ SEC ยังเพิกเฉยต่อ *คำเตือนเรื่องความเสี่ยง* ที่เราย้ำอยู่เป็นระยะ”
ที่สำคัญ ยูนิคอยน์ชี้ให้เห็นว่า SEC ถึงขั้น *ตีความข้อมูลในเอกสารเปิดเผยข้อมูลอย่างเป็นทางการของบริษัทว่าเป็นหลักฐานเท็จ* ซึ่งสร้างความเสียหายต่อความเชื่อมั่นอย่างรุนแรง
คดีนี้ถูกยื่นเมื่อเดือนพฤษภาคม โดย SEC ฟ้องยูนิคอยน์ พร้อมด้วยผู้บริหารหลักอย่าง อเล็กซ์ โคแนนิคิน(Alex Konanykhin) ซีอีโอ, ซิลวินา มอส์คีนี(Silvina Moschini) กรรมการบริษัท และอดีตประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการลงทุน อเล็กซ์ โดมิงเกซ(Alex Dominguez) รวมมูลค่าความเสียหาย *สูงถึง 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1,390 ล้านบาท)* โดย SEC อ้างว่ากลุ่มผู้บริหารใช้ 'เอกสารสิทธิ์' ที่ระบุว่าถือครองโทเคนยูนิคอยน์และสิทธิ์ในหุ้น มา *โน้มน้าวนักลงทุนโดยมิชอบ*
อย่างไรก็ดี ยูนิคอยน์โต้แย้งว่า ข้อกล่าวหาทั้งหมด *ไม่เข้าเกณฑ์การละเมิดกฎหมายหลักทรัพย์* โดยเน้นว่า การกระทำใดจะถือเป็นการฉ้อโกงหลักทรัพย์ได้ จะต้องมีเจตนาหลอกลวงผ่านถ้อยคำเท็จที่นักลงทุนสามารถเชื่อถือได้เท่านั้น ซึ่งไม่ตรงกับกรณีของบริษัท พร้อมยืนยันว่า *ความเสี่ยงต่างๆ* ที่ทาง SEC นำมาใช้อ้างในการฟ้องร้องนั้น ได้ถูกบริษัท *ประกาศต่อสาธารณะอย่างชัดเจนและสม่ำเสมอ*
ชั้นศาลในครั้งนี้จึงอาจมีบทบาทสำคัญในการชี้วัดขอบเขต *วิธีการและมาตรฐาน* ที่ SEC สามารถใช้ในการกำกับดูแลบริษัทคริปโต ส่งผลให้จุดยืนที่แข็งกร้าวของยูนิคอยน์อาจกลายเป็น *บรรทัดฐานในอนาคต* ว่า SEC จะสามารถใช้อำนาจอย่างไรในการบังคับใช้กฎหมายต่ออุตสาหกรรมคริปโตที่กำลังเติบโตอย่างไม่หยุดยั้ง *ความคิดเห็น: คดีนี้ไม่เพียงสะท้อนความขัดแย้งด้านกฎหมายเท่านั้น แต่ส่อให้เห็นถึงการต่อสู้เพื่ออธิปไตยของข้อมูลในยุคสินทรัพย์ดิจิทัลอีกด้วย*
ความคิดเห็น 0