บิตคอยน์(BTC)กำลังก้าวขึ้นสู่บทบาทใหม่ในระบบการเงินระหว่างประเทศ หลังจากที่ตลาดเริ่มหันเหความเชื่อมั่นออกจากดอลลาร์สหรัฐ โดยประเด็นนี้ถูกจุดกระแสผ่านความเห็นของ บาลาจี ศรีนิวาซัน(Balaji Srinivasan) อดีตประธานเจ้าหน้าที่เทคโนโลยีของบริษัทคริปโตชื่อดังอย่างคอยน์เบส(Coinbase) ซึ่งกล่าวว่า *ดอลลาร์สหรัฐกำลังสูญเสียสถานะการเป็นสกุลเงินทุนสำรองของโลก* ขณะที่ ‘ทองคำ’ และ ‘บิตคอยน์’ กำลังเข้ามาแทนที่
ศรีนิวาซันเปิดเผยผ่านโซเชียลมีเดีย เมื่ออ้างอิงข้อมูลจาก MoneyMetals ว่า *ในไตรมาสแรกของปี 2025* สัดส่วนการถือครองดอลลาร์ในทุนสำรองเงินตราระหว่างประเทศลดลงมาอยู่ที่ราว 42% จากที่เคยอยู่ในช่วง 60-65% ไม่กี่ปีก่อนหน้านี้ แสดงให้เห็นถึง *แนวโน้มที่ถดถอยอย่างรวดเร็ว* ขณะที่สัดส่วนของยูโร(EUR)ยังทรงตัวอยู่ที่ประมาณ 15% ส่วนทองคำ เงินหยวนของจีน เยนญี่ปุ่น และสกุลอื่นๆ กลับเพิ่มขึ้น
เขายังชี้ว่า *ทองคำกำลังคืนชีพในระดับประเทศ* ในฐานะทรัพย์สินสำรองที่เชื่อถือได้ และพร้อมกันนั้น บิตคอยน์ก็ได้รับการ*ยอมรับในหมู่นักลงทุนรายย่อยในฐานะ "ทองคำดิจิทัล"* ศรีนิวาซันระบุว่า *ทองคำมีสัดส่วนในทุนสำรองพุ่งขึ้นเป็น 24%* เพิ่มขึ้น 3 จุดเปอร์เซ็นต์ภายในปีเดียว ซึ่งเป็นระดับที่ไม่เคยเกิดขึ้นในช่วง 30 ปีที่ผ่านมา และยังเป็นการปรับเพิ่ม 3 ปีติดต่อกัน เขาเสริมว่าในปี 2024 ทองคำ *แซงหน้ายูโรขึ้นเป็นสินทรัพย์ทุนสำรองอันดับสองของโลก* ซึ่งเขาเรียกว่า “สกุลเงินหลักของประเทศ” ในขณะเดียวกัน *บิตคอยน์กำลังกลายเป็น “สกุลเงินหลักของบุคคลธรรมดา”*
การเปรียบบิตคอยน์เป็นสิ่งที่มากกว่าแค่สินทรัพย์การเงิน แต่เป็น ‘แกนกลาง’ ของระบบการเงินใหม่นี้ ชี้ให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างในแวดวงเศรษฐกิจโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่ *อิทธิพลของสกุลเงินสหรัฐเริ่มสั่นคลอน* ท่ามกลางแรงกดดันทางภูมิรัฐศาสตร์และแรงต้านจากนโยบายเงินเฟ้อ
*ความคิดเห็น:* การวิเคราะห์ของศรีนิวาซันสะท้อนกระแสที่กำลังเปลี่ยนทิศของโลกการเงิน ซึ่งไม่ใช่เพียงเรื่องการลงทุน แต่เป็นการตั้งคำถามถึง ‘โครงสร้างเดิม’ ที่ครอบงำระบบการเงินโลกมานาน บิตคอยน์ในบทบาททองคำดิจิทัลอาจกลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในอนาคตของตลาดทุนและนโยบายการเงินระหว่างประเทศ
ความคิดเห็น 0