สำนักงานบริการทางการเงินของญี่ปุ่น (FSA) เสนอแนวทางใหม่ในการเพิ่มความเข้มงวดของกฎระเบียบคริปโต ด้วยการบังคับใช้ ‘กฎหมายว่าด้วยการซื้อขายผลิตภัณฑ์ทางการเงิน’ แทนที่กรอบกำกับดูแลเดิมภายใต้ ‘กฎหมายการชำระเงิน’ ที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน โดยชี้ว่าควรจัดการดูแลคริปโตในลักษณะเดียวกับหลักทรัพย์ เพื่อปกป้องนักลงทุนและลดความเสี่ยงในตลาดที่เติบโตอย่างรวดเร็ว
ตามรายงานที่ FSA เสนอต่อคณะกรรมาธิการด้านระบบการเงินของญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 24 ระบุว่า ปัญหาหลักที่พบในการลงทุนสินทรัพย์ดิจิทัลมีความใกล้เคียงกับผลิตภัณฑ์ทางการเงินแบบดั้งเดิม โดยเน้นถึงปัจจัยสำคัญ เช่น ‘เอกสารไวต์เปเปอร์ที่คลุมเครือ’, ‘การเปิดเผยข้อมูลการลงทุนที่ไม่เพียงพอ’, ‘การดำเนินงานแบบไม่มีใบอนุญาต’, ‘พฤติกรรมชักจูงการลงทุนที่เข้าข่ายหลอกลวง’, ‘การบริหารจัดการความเสี่ยงที่ต่ำ’ และ ‘ระบบความปลอดภัยของแพลตฟอร์มที่เปราะบาง’ ซึ่งทั้งหมดนี้ล้วนเป็นเป้าหมายหลักของการปรับปรุงกฎระเบียบ
แม้ว่าข้อเสนอนี้จะยังไม่ถือเป็นกฎหมายที่มีผลบังคับใช้ แต่เอกสารดังกล่าวเป็นแนวทางที่จัดทำโดย FSA เพื่อให้คำแนะนำต่อรัฐบาลญี่ปุ่น โดยกระบวนการเปลี่ยนแปลงเชิงนโยบายที่เป็นทางการจะต้องรอการอนุมัติจากทั้งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังและคณะรัฐมนตรีของญี่ปุ่นเสียก่อน
ในรายงานฉบับร่างยังมีข้อความที่ระบุว่า "สินทรัพย์ดิจิทัลควรถูกควบคุมภายใต้โครงสร้างการบังคับใช้ของกฎหมายว่าด้วยการซื้อขายผลิตภัณฑ์ทางการเงิน" ซึ่งแสดงให้เห็นว่าญี่ปุ่นกำลังก้าวไปข้างหน้าอย่างจริงจังในการจัดระเบียบตลาดคริปโตภายในประเทศ
การเคลื่อนไหวของ FSA ครั้งนี้สะท้อนถึงความพยายามของทางการญี่ปุ่นในการยกระดับ ‘การคุ้มครองนักลงทุน’ ท่ามกลางกระแสคดีหลอกลวงในตลาดคริปโตที่ยังคงเกิดขึ้นต่อเนื่องทั่วเอเชีย ความคิดเห็นของผู้เชี่ยวชาญชี้ว่า หากข้อเสนอนี้ได้รับการอนุมัติในระดับนโยบาย จะส่งผลให้การดำเนินงานของทั้งตลาดซื้อขายคริปโตและผู้ให้บริการโครงการต่าง ๆ ในญี่ปุ่นต้องเกิด ‘การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่’ อย่างเลี่ยงไม่ได้
ความคิดเห็น 0