Bybit ถูกแฮ็ก สูญเสียอีเธอเรียม(ETH) มูลค่ากว่า 1.4 พันล้านดอลลาร์
Bybit เผชิญกับการโจมตีทางไซเบอร์ครั้งใหญ่ สูญเสียอีเธอเรียม(ETH) และ Staked Ethereum(stETH) รวมมูลค่าประมาณ 1.4 พันล้านดอลลาร์ นับเป็นหนึ่งในการแฮ็กที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของตลาดแลกเปลี่ยนคริปโต
นักวิเคราะห์บล็อกเชน ZachXBT เป็นผู้ค้นพบการเคลื่อนไหวของเงินที่น่าสงสัยเป็นครั้งแรก ก่อนที่ เบน โจว(Ben Zhou) ซีอีโอของ Bybit จะออกมายืนยันการโจมตีโดยระบุว่า "แฮ็กเกอร์สามารถเข้าควบคุมกระเป๋าเงินแบบเย็น (Cold Wallet) และถอน ETH ออกไปทั้งหมด"
ตามข้อมูลของ Arkham Intelligence พบว่า แฮ็กเกอร์ได้ขโมยอีเธอเรียมไปทั้งหมด 401,346 ETH และปัจจุบันพวกเขาได้กระจายสินทรัพย์มูลค่า 1.37 พันล้านดอลลาร์ไว้ใน 53 กระเป๋าเงินที่แตกต่างกัน ข้อมูลเมื่อวานนี้ระบุว่า Bybit มีเงินสำรอง 543,453 ETH โดยในจำนวนนี้ 537,152 ETH เป็นเงินฝากของลูกค้า ทว่าการแฮ็กครั้งนี้ทำให้เงินสำรองลดลงอย่างมาก
เบน โจว ชี้แจงว่า "เรายังไม่มีแผนที่จะซื้อ ETH ในปริมาณมากเพื่อเติมเต็มช่องว่างที่ขาดหายไปทันที" แต่ยืนยันว่า "80% ของ ETH ที่จำเป็น ได้รับการจัดเตรียมผ่านการกู้ยืมจากสะพานข้ามเชนแล้ว"
ขณะที่แฮ็กเกอร์ยังคงกระจาย ETH ไปยังหลายที่อยู่เพื่อหลบเลี่ยงการติดตาม นักวิเคราะห์พบว่า 39 กระเป๋าเงินได้รับโอน ETH จำนวน 10,000 ETH ต่อบัญชี และยังมีอีก 9 บัญชีที่ได้รับเงินในลักษณะเดียวกัน
ตลาดคริปโตได้รับผลกระทบอย่างหนักจากเหตุการณ์นี้ บิตคอยน์(BTC) เคยแตะระดับ 100,000 ดอลลาร์ แต่ร่วงลงมาที่ 97,000 ดอลลาร์ ขณะที่อีเธอเรียมก็ลดลงกว่า 4% ไปอยู่ต่ำกว่า 2,700 ดอลลาร์ ส่งผลให้มีการชำระบัญชีตำแหน่งฟิวเจอร์สมูลค่ากว่า 100 ล้านดอลลาร์
ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่า การแฮ็กครั้งนี้เผยให้เห็นถึง ‘จุดอ่อนด้านความปลอดภัย’ ของตลาดแลกเปลี่ยนคริปโต และเรียกร้องให้มีการจัดการความเสี่ยงที่เข้มงวดมากขึ้น ในแพลตฟอร์มแบบรวมศูนย์
ความคิดเห็น 0