บิตคอยน์(BTC) กำลังเผชิญกับระดับ *แนวต้านสำคัญ* ในสัปดาห์ที่สองของเดือนกันยายน โดยมีการคาดการณ์จากภายในตลาดว่าอาจเกิดการ *ปรับฐานรุนแรงมากกว่า 10%* แม้จะมีการซื้อขายแถวระดับ 112,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 15.5 ล้านบาท) ตลอดช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา แต่ *นักลงทุนเริ่มให้น้ำหนักกับความเป็นไปได้ของการปรับฐานมากขึ้น*
ปัจจัยสำคัญที่กระทบต่อความเชื่อมั่นของตลาดในขณะนี้คือ ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของสหรัฐฯ ที่จะประกาศในเร็วๆ นี้ เนื่องจากตัวเลขอัตราเงินเฟ้อสามารถ *ส่งผลโดยตรงต่อการดำเนินนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด)* และมี *ความคิดเห็น* จากนักเทรดบางส่วนว่า “ผลของการประกาศ CPI ครั้งนี้ อาจเป็นจุดเปลี่ยนที่ทำให้เฟดปรับจุดยืนอย่างชัดเจน”
ขณะเดียวกัน แรงเคลื่อนไหวของ *นักลงทุนสถาบัน* เริ่มลดลงอย่างเห็นได้ชัด บรรดากองทุนที่เคยโยกย้ายจากบิตคอยน์ไปยังอีเธอเรียม(ETH) ผ่านกองทุน ETF เริ่มชะลอตัวลง ซึ่งนักวิเคราะห์หลายรายมองว่า *ภาวะสลับสินทรัพย์ (rotation)* ดังกล่าวน่าจะสิ้นสุดลงในระยะสั้น
อย่างไรก็ตาม ความเคลื่อนไหวของ *วาฬบิตคอยน์* หรือกลุ่มผู้ถือสินทรัพย์จำนวนมาก กลับสร้างแรงกดดันต่อราคาตลาดมากขึ้นตลอดช่วงเดือนที่ผ่านมา เนื่องจากมีการเทขายออกมาในปริมาณมาก คล้ายกับช่วงตลาดหมีปี 2022 ซึ่งยังคงเป็น *แรงกดดันระยะสั้นต่อแนวโน้มขาลง*
ด้านตลาดโลก แพลตฟอร์มเทรดระดับโลกอย่าง ไบแนนซ์ กำลังเผชิญคำเตือนจากเทรดเดอร์บางกลุ่มว่า *สัญญาณการทำจุดสูงสุดของราคา* อาจได้ปรากฏขึ้นแล้ว ความผันผวนภายในของแพลตฟอร์มจึงกลายเป็นปัจจัยสำคัญที่อาจกำหนดทิศทางราคาในช่วงถัดไป
ในขณะนี้ บิตคอยน์ *กำลังเคลื่อนไหวอย่างไม่แน่นอน* และอาจร่วงลงมาต่ำกว่า 100,000 ดอลลาร์ (ราว 13.9 ล้านบาท) แม้ในระยะสั้นจะไม่มีความผันผวนอย่างรุนแรง แต่หากแนวรับพังทลาย ก็อาจเข้าสู่ *โซนราคาที่อ่อนไหวในแง่จิตวิทยา* ซึ่งอาจส่งผลต่อพฤติกรรมของนักลงทุนอย่างมีนัยสำคัญ
สิ่งที่ตลาดกำลังจับตาอย่างใกล้ชิดคือ *ตัวเลขเงินเฟ้อ* และ *กลยุทธ์ตอบสนองของนักเทรด* ซึ่งอาจเป็นตัวกำหนด *ทิศทางระยะสั้นของราคาบิตคอยน์* ได้โดยตรง บางมุมมองชี้ว่า สัปดาห์นี้อาจกลายเป็น *จุดเปลี่ยนสำคัญ* ของตลาดคริปโตในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้
ความคิดเห็น 0