การแฮ็กของ ไบบิท(Bybit) กลายเป็นเหตุการณ์การแฮ็กที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์อุตสาหกรรมคริปโต
เมื่อวันที่ 21 บริษัทด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ ไซเบอร์ส(Cyvers) เปิดเผยว่า ไบบิท ถูกแฮ็กเป็นมูลค่ารวม 1.4 หมื่นล้านดอลลาร์ (ประมาณ 5.1 แสนล้านบาท) ซึ่งเป็นจำนวนมากกว่าสองเท่าของเหตุการณ์แฮ็กมูลค่า 600 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 2.2 หมื่นล้านบาท) ที่เกิดขึ้นบน โรนินเน็ตเวิร์ก(Ronin Network) เมื่อเดือนมีนาคม 2022
แม้เหตุการณ์แฮ็กและการฉ้อโกงจะเกิดขึ้นซ้ำๆ ส่งผลกระทบต่อความน่าเชื่อถือของอุตสาหกรรมคริปโต แต่ข้อมูลจาก เชนแอลิซิส(Chainalysis) ระบุว่า กรณีการใช้งานคริปโตที่ถูกกฎหมายยังคงเติบโตอย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ตาม เมื่อราคาคริปโตปรับตัวสูงขึ้น ความพยายามในการแฮ็กก็เพิ่มขึ้นตามไปด้วย รายงานจาก คริสตัลอินเทลลิเจนซ์(Crystal Intelligence) ระบุว่า ในช่วงครึ่งแรกของปี 2024 ความเสียหายสะสมจากการแฮ็กคริปโตแตะระดับ 19 พันล้านดอลลาร์ (ประมาณ 6.8 แสนล้านบาท) แล้ว
ก่อนเหตุการณ์นี้ การแฮ็กครั้งใหญ่ก็เคยเกิดขึ้นหลายต่อหลายครั้ง ยกตัวอย่างเช่น ในปี 2021 โพลีเน็ตเวิร์ก(Poly Network) สูญเสียกว่า 600 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 2.2 หมื่นล้านบาท) ขณะที่ในเดือนตุลาคม 2022 ไบแนนซ์(Binance) ถูกโจมตีผ่านเครือข่าย BNB Chain มูลค่า 568 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 2 หมื่นล้านบาท)
ย้อนกลับไปในปี 2018 ตลาดแลกเปลี่ยน คอยน์เช็ค(Coincheck) ของญี่ปุ่น ถูกขโมยเหรียญ เนม(XEM) รวมมูลค่า 534 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 1.9 หมื่นล้านบาท) ส่วนในเดือนพฤศจิกายน 2022 การล่มสลายของ FTX นำไปสู่การสูญเสียคริปโตรวม 477 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 1.7 หมื่นล้านบาท)
ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยแนะนำว่า ตลาดแลกเปลี่ยนควรพิจารณาใช้ระบบตรวจสอบธุรกรรมนอกเครือข่าย พร้อมทั้งเสริมมาตรการป้องกันแบบหลายชั้นเพื่อลดความเสี่ยงของการถูกโจมตี ขณะที่ ไบบิท ได้ออกแถลงการณ์ว่าถึงแม้จะยังเปิดให้ถอนเงินได้ตามปกติ แต่ขอแจ้งเตือนว่ากระบวนการอาจล่าช้ากว่าปกติ
ความคิดเห็น 0