Back to top
  • 공유 แชร์
  • 인쇄 พิมพ์
  • 글자크기 ขนาดตัวอักษร
ลิงก์ถูกคัดลอกแล้ว

แคนาดายึดคริปโตมูลค่า 1.5 พันล้านบาทจากเทรดโอกอร์ ผู้ใช้งานโวยล้ำเส้นสิทธิส่วนบุคคล

แคนาดายึดคริปโตมูลค่า 1.5 พันล้านบาทจากเทรดโอกอร์ ผู้ใช้งานโวยล้ำเส้นสิทธิส่วนบุคคล / Tokenpost

ผู้ใช้งานคริปโตในแคนาดาออกมาแสดงความไม่พอใจอย่างรุนแรง หลังจากที่ตำรวจม้าแคนาดา(RCMP)เข้าทำการอายัดเว็บไซต์และทรัพย์สินดิจิทัลของแพลตฟอร์มเทรดคริปโต *เทรดโอกอร์(TradeOgre)* โดยเจ้าหน้าที่ให้เหตุผลว่าบริษัทละเลยการขึ้นทะเบียนต่อต้านการฟอกเงิน และเปิดให้บริการแบบไม่เปิดเผยตัวตน ซึ่งเป็นปัจจัยในการก่ออาชญากรรมทางการเงิน แต่ชุมชนผู้ลงทุนกลับโต้กลับว่า *การอายัดทรัพย์จำนวนมากของผู้ใช้บริสุทธิ์จากพฤติกรรมผิดกฎหมายเพียงบางกลุ่มถือเป็นการล้ำเส้นสิทธิขั้นพื้นฐาน*

จากประกาศล่าสุด RCMP ระบุว่าการยึดทรัพย์ครั้งนี้เป็น *กรณีการยึดคริปโตครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์แคนาดา* โดยสามารถเรียกคืนทรัพย์สินมูลค่า 56 ล้านดอลลาร์แคนาดา หรือประมาณ 564 พันล้านวอน (ประมาณ 1.5 พันล้านบาท) เทรดโอกอร์เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางในกลุ่มนักลงทุนสายเน้นความเป็นส่วนตัว เพราะแม้เป็นระบบศูนย์กลาง แต่ก็เปิดให้ผู้ใช้ทำธุรกรรมแบบไม่ต้องยืนยันตัวตน(KYC)

เหตุการณ์นี้ถือเป็น ‘*ข้อมูลอย่างเป็นทางการครั้งแรก*’ นับตั้งแต่เว็บไซต์ของเทรดโอกอร์หยุดดำเนินการมาหลายเดือนโดยไม่มีคำชี้แจงใดๆ ก่อนหน้านี้ ซึ่งสร้างความกังวลในแวดวงว่า การจัดเก็บคริปโตไว้ที่แพลตฟอร์มรวมอาจเสี่ยงเกินไป ส่งผลให้การถือครองเหรียญด้วยตนเองหรือ ‘*การดูแลทรัพย์สินด้วยตนเอง (Self-custody)*’ ถูกพูดถึงอย่างกว้างขวางอีกครั้ง

RCMP ยังระบุว่านี่เป็นครั้งแรกที่ตำรวจแคนาดาทำการ *รื้อแพลตฟอร์มเทรดคริปโตทั้งหมด* พร้อมเผยว่าการสอบสวนเริ่มต้นเมื่อเดือนมิถุนายน 2024 เมื่อยูโรโพล(Europol)แจ้งสัญญาณเตือนที่เกี่ยวข้องกับความเคลื่อนไหวของสินทรัพย์ทางการเงินต้องสงสัยในแคนาดา เจ้าหน้าที่เน้นย้ำว่าเทรดโอกอร์ไม่ได้ขึ้นทะเบียนเป็นผู้ให้บริการทางการเงินกับองค์กรกำกับดูแลทางการเงินของแคนาดา(FINTRAC) และไม่ได้รวบรวมข้อมูลผู้ใช้เลย ทำให้ตกเป็นเป้าหมายขององค์กรอาชญากรรมที่ใช้เป็นช่องทางฟอกเงิน

อย่างไรก็ตาม ในกลุ่มผู้ใช้งานคริปโตมีเสียงวิจารณ์ว่า การดำเนินการของ RCMP *อาจเกินขอบเขตและไม่มีความยุติธรรม* หนึ่งในผู้ใช้ไม่ระบุชื่อกล่าวว่า “แม้ผู้ให้บริการจะผิดกฎก็จริง แต่การยึดทรัพย์ทั้งหมดจากผู้ใช้งานโดยเหมารวม ถือว่าเกินไปไหม?” โดยเหตุการณ์นี้ยังสะท้อนถึงประเด็น *การไม่แยกสินทรัพย์ระหว่างผู้ให้บริการกับผู้ใช้งาน* ซึ่งนำมาสู่ปัญหาเรื่องความชอบธรรมทางกฎหมายที่อาจตามมา

นักวิเคราะห์มองว่าเรื่องนี้เป็นตัวอย่างของ *ความเสี่ยงจากโครงสร้างแบบรวมศูนย์และการขาดกฎระเบียบที่ชัดเจน* ซึ่งอาจกลายเป็นตัวเร่งให้เกิดแนวโน้มการกำกับดูแลที่เข้มงวดขึ้นต่อแพลตฟอร์มที่เน้นความเป็นส่วนตัวในอนาคต โดยเฉพาะในระดับสากล

ความคิดเห็น: การจัดการกับอาชญากรรมในวงการคริปโตเป็นเรื่องจำเป็น แต่การล้ำเส้นไปถึงสิทธิของผู้ลงทุนอาจสร้างผลสะท้อนร้ายย้อนกลับสู่ระบบการกำกับดูแลเองในระยะยาว

<ลิขสิทธิ์ ⓒ TokenPost ห้ามเผยแพร่หรือแจกจ่ายซ้ำโดยไม่ได้รับอนุญาต>

บทความที่มีคนดูมากที่สุด

บทความที่เกี่ยวข้อง

ความคิดเห็น 0

ข้อแนะนำสำหรับความคิดเห็น

ขอบคุณสำหรับบทความดี ๆ ต้องการบทความติดตามเพิ่มเติม เป็นการวิเคราะห์ที่ยอดเยี่ยม

0/1000

ข้อแนะนำสำหรับความคิดเห็น

ขอบคุณสำหรับบทความดี ๆ ต้องการบทความติดตามเพิ่มเติม เป็นการวิเคราะห์ที่ยอดเยี่ยม
1