กลุ่มแฮกเกอร์เกาหลีเหนือ Lazarus ถูกกล่าวหาว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการฉ้อโกงมิ้มคอยน์บนเครือข่ายโซลานา(SOL)
เมื่อวันที่ 21 ตามเวลาท้องถิ่น นักวิเคราะห์ออนเชนชื่อดัง ZachXBT เปิดเผยว่ากลุ่มแฮกเกอร์ Lazarus ซึ่งเคยโจมตีแพลตฟอร์มไบบิท(Bybit) จนสูญเสียมูลค่ากว่า 140 ล้านดอลลาร์ อาจเกี่ยวข้องกับกรณี ‘รักพูล’ ของมิ้มคอยน์ในเครือข่ายโซลานา
รายงานระบุว่า Lazarus ได้โอนเงินที่ขโมยมาจากไบบิทเป็นจำนวน 1.08 ล้านดอลลาร์ ไปยังที่อยู่กระเป๋าเงินแห่งหนึ่ง ก่อนจะแปลงเป็น USDC และทำการบริดจ์เข้าสู่เครือข่ายโซลานา จากนั้นเงินดังกล่าวถูกกระจายไปยังกระเป๋าเงินหลายบัญชี ซึ่งบางบัญชีเคยมีประวัติเกี่ยวข้องกับการหลอกลวงมิ้มคอยน์ก่อนหน้านี้
นอกจากนี้ ZachXBT ยังเผยแพร่รายชื่อที่อยู่กระเป๋าเงินมากกว่า 920 บัญชีที่เกี่ยวข้องกับการแฮกไบบิท โดยระบุว่าบางบัญชีเคยทำหน้าที่ฟอกเงินให้กับ Lazarus และอาจใช้แพลตฟอร์ม Pump.fun ในเครือข่ายโซลานาเพื่อเปิดตัวมิ้มคอยน์
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ Lazarus ถูกเชื่อมโยงกับคดีฉ้อโกงคริปโต ก่อนหน้านี้กลุ่มดังกล่าวถูกกล่าวหาว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการแฮกแพลตฟอร์มฟีเม็กซ์(Phemex) เมื่อเดือนมกราคม ที่มีมูลค่าความเสียหายสูงถึง 29 ล้านดอลลาร์
ขณะเดียวกัน เครือข่ายโซลานาเผชิญกับปัญหามิ้มคอยน์หลอกลวงและกรณีรักพูลที่ส่งผลให้ความเชื่อมั่นของนักลงทุนลดลงอย่างรวดเร็ว ตัวอย่างที่โดดเด่นคือโครงการ Libra ที่ได้รับการสนับสนุนจากฮาเวียร์ มิเลย์(Javier Milei) ประธานาธิบดีอาร์เจนตินา ซึ่งกลุ่มภายในได้ถอนสภาพคล่องออกไปกว่า 107 ล้านดอลลาร์ ทำให้ราคาของเหรียญร่วงลงถึง 94% และส่งผลให้มูลค่าความเสียหายของนักลงทุนแตะระดับ 4 พันล้านดอลลาร์
ผลกระทบจากเหตุการณ์เหล่านี้ทำให้กระแสเงินไหลเข้าของเครือข่ายโซลานาลดลงอย่างมาก ตามข้อมูลจาก Glassnode ระบุว่าอัตราการไหลเข้าของเงินทุนรายเดือนลดลง -5.9% และจำนวนที่อยู่กระเป๋าเงินที่มีการใช้งานก็ร่วงลงจาก 15.6 ล้านบัญชีในเดือนพฤศจิกายน เหลือเพียง 9.5 ล้านบัญชีในเดือนที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม นักวิจัยบล็อกเชน Aylo ให้ความเห็นว่า แม้โซลานาจะเผชิญกับปัญหาการถูกนำไปใช้ในทางที่ผิด แต่เทคโนโลยีของเครือข่ายยังคงเป็นกลาง เขาคาดการณ์ว่าเหตุการณ์เหล่านี้จะนำไปสู่การปรับปรุงด้านความปลอดภัยและอาจเป็นปัจจัยที่ช่วยส่งเสริมการเติบโตของโซลานาในระยะยาว
ความคิดเห็น 0