ราคาของดอจคอยน์(DOGE) กำลังได้รับความสนใจจากนักลงทุน หลังเกิดสัญญาณ ‘เดธครอส(Death Cross)’ บนกราฟราคา ซึ่งมักเป็นสัญญาณทางเทคนิคที่ชี้ถึงแนวโน้มขาลง โดยในช่วงปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ราคาได้ร่วงลงจาก 0.2889 ดอลลาร์ (ประมาณ 402 บาท) เหลือ 0.2631 ดอลลาร์ (ประมาณ 366 บาท) ทำให้เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 50 วันตัดลงต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ย 200 วันในกราฟ 1 ชั่วโมง ซึ่งถือเป็นการยืนยันแนวโน้มอ่อนแรงในระยะสั้นถึงกลาง
อย่างไรก็ตาม หลายฝ่ายมองว่ายังเร็วเกินไปที่จะสรุปว่าราคาจะเข้าสู่ขาลงอย่างชัดเจน เนื่องจากดอจคอยน์กำลังมีแรงดีดกลับเล็กน้อยบริเวณแนวรับสำคัญที่ 0.267 ดอลลาร์ (ประมาณ 371 บาท) โดยมีแนวต้านแรกอยู่ที่ 0.274 ดอลลาร์ (ประมาณ 381 บาท) นักวิเคราะห์คริปโตชื่อ อาลี ระบุว่า หากราคาสามารถทะลุระดับ 0.29 ดอลลาร์ (ประมาณ 403 บาท) ได้ อาจมีโอกาสพุ่งไปถึง 0.36 ดอลลาร์ (ประมาณ 500 บาท) หรือแม้แต่ 0.45 ดอลลาร์ (ประมาณ 626 บาท) *ความคิดเห็น* หากไม่สามารถยืนเหนือแนวรับได้ ก็มีโอกาสถอยลงไปทดสอบระดับ 0.2568 ดอลลาร์ (ประมาณ 357 บาท)
ข่าวดีที่ช่วยหนุนความเชื่อมั่นของตลาดคือล่าสุด ‘DOJE’ อีทีเอฟดอจคอยน์แบบสปอตตัวแรกของสหรัฐ ได้เปิดตัวอย่างแข็งแกร่ง โดยสามารถดึงดูดเงินลงทุนได้ถึง 17 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 236 ล้านบาท) ภายในวันแรกของการเปิดตัว อีริก บาลชูนาส จากบลูมเบิร์ก วิเคราะห์ว่า นี่เป็นผลงานที่ติดอันดับ 5 ในหมู่ ETF ที่เปิดตัวใหม่จำนวน 710 ตัวในปีนี้ ขณะเดียวกันบริษัทเกรย์สเกล ยังเร่งยื่นแก้ไขเอกสาร S-1 เพื่อแปลงสินทรัพย์ทรัสต์ดอจคอยน์ให้เป็น ETF อย่างเป็นทางการ ซึ่งสะท้อนความพยายามขยายตลาดสถาบัน
นอกจากนี้ บริษัทย่อยของมูลนิธิดอจคอยน์ภายใต้ชื่อคลีนคอร์ โซลูชันส์ ได้ซื้อดอจคอยน์เพิ่มเติมอีก 100 ล้าน DOGE ทำให้ปริมาณการถือครองรวมเกิน 600 ล้าน DOGE แล้ว ซึ่งถือเป็นสัญญาณบวกจากมุมมองระยะยาว
ด้วยแรงกดดันทางเทคนิคที่ยังไม่สิ้นสุด ประกอบกับข่าวบวกจากการเปิดตัว *ETF* และแรงซื้อของสถาบัน ทำให้แนวโน้มราคาของดอจคอยน์ยังคงมีทางเลือกฟื้นตัว นักลงทุนควรติดตามแนวรับสำคัญและแนวต้านใกล้เคียงอย่างใกล้ชิดเพื่อเตรียมปรับกลยุทธ์ให้เหมาะสมกับทิศทางตลาดในระยะสั้น
ความคิดเห็น 0