Back to top
  • 공유 แชร์
  • 인쇄 พิมพ์
  • 글자크기 ขนาดตัวอักษร
ลิงก์ถูกคัดลอกแล้ว

ไมเคิล เซย์เลอร์ส่งสัญญาณซื้อบิตคอยน์เพิ่ม กลุ่มลาซารัสจ่อฉ้อโกงมีมคอยน์บนโซลานา

Mon, 24 Feb 2025, 04:51 am UTC

ไมเคิล เซย์เลอร์ส่งสัญญาณซื้อบิตคอยน์เพิ่ม กลุ่มลาซารัสจ่อฉ้อโกงมีมคอยน์บนโซลานา / Tokenpost

ตลาดคริปโตยังคงมีความเคลื่อนไหวสำคัญอย่างต่อเนื่อง ไมเคิล เซย์เลอร์ได้ส่งสัญญาณถึงความเป็นไปได้ในการซื้อบิตคอยน์(BTC) เพิ่มเติม ขณะที่มีรายงานว่ากลุ่มแฮกเกอร์ ‘ลาซารัส’ อาจเกี่ยวข้องกับการฉ้อโกงโดยใช้มีมคอยน์บนบล็อกเชนของโซลานา(SOL) นอกจากนี้ หลังเหตุการณ์แฮกไบบิต(Bybit) ก็ได้มีข้อเรียกร้องให้มีการย้อนกลับธุรกรรมบนเครือข่ายอีเธอเรียม(ETH) ซึ่งนักพัฒนาหลักได้ออกมาเตือนถึงความซับซ้อนของแนวคิดดังกล่าว

เมื่อวันที่ 23 ไมเคิล เซย์เลอร์ ผู้ร่วมก่อตั้งไมโครสตราเทจี(MicroStrategy) ได้โพสต์กราฟที่บ่งบอกถึงความเป็นไปได้ในการซื้อบิตคอยน์เพิ่มเติมผ่านโซเชียลมีเดีย X(เดิมชื่อทวิตเตอร์) กราฟที่เซย์เลอร์แชร์มักถูกจับตามองว่าเป็นสัญญาณบ่งชี้ถึงแผนลงทุนในบิตคอยน์ของเขา ปัจจุบัน ไมโครสตราเทจีถือครองบิตคอยน์จำนวน 478,740 BTC คิดเป็นมูลค่าราว 45.8 พันล้านดอลลาร์ (ประมาณ 1.66 ล้านล้านบาท) และเมื่อวันที่ 20 เพิ่งออกหุ้นกู้แปลงสภาพมูลค่า 2 พันล้านดอลลาร์ (ประมาณ 72,000 ล้านบาท) เพื่อนำไปซื้อบิตคอยน์เพิ่มเติม

ในอีกด้านหนึ่ง ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยบล็อกเชน แซคเอ็กซ์บีที(ZachXBT) เปิดเผยเมื่อวันที่ 23 ผ่าน Telegram ว่ากลุ่มลาซารัสอาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับการฉ้อโกงโดยใช้มีมคอยน์บนบล็อกเชนของโซลานา รายงานระบุว่ากลุ่มลาซารัส ซึ่งเป็นผู้ต้องสงสัยหลักของการแฮกไบบิตมูลค่า 1.4 พันล้านดอลลาร์ (ประมาณ 5 หมื่นล้านบาท) อาจอยู่เบื้องหลังโครงการ 'Pump.fun' ซึ่งเกี่ยวข้องกับพฤติกรรม 'รั๊กพูล' (การหลอกระดมทุนก่อนปิดโครงการและเชิดเงินหนี) นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่ากลุ่มแฮกเกอร์อาจฟอกเงินที่ได้จากไบบิตและนำมาใช้ในการฉ้อโกงบนแพลตฟอร์มโซลานา

อีกหนึ่งประเด็นสำคัญคือข้อเรียกร้องให้มีการ 'ย้อนธุรกรรม' บนเครือข่ายอีเธอเรียมหลังเหตุการณ์แฮกไบบิต อย่างไรก็ตาม ทีม เบโก(Tim Beiko) นักพัฒนาหลักของอีเธอเรียม ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นเชิงลบเกี่ยวกับแนวคิดนี้ผ่านโพสต์บนโซเชียลมีเดีย X เมื่อวันที่ 22 เขาอธิบายว่า "ถึงแม้ข้อเสนอนี้อาจดูสมเหตุสมผลในแง่หนึ่ง แต่จากมุมมองทางเทคนิคแล้วเป็นเรื่องที่แทบเป็นไปไม่ได้" การแฮกไบบิตเกิดจากการที่แฮกเกอร์ใช้ช่องโหว่ของสมาร์ตคอนแทรกต์ผ่านกระเป๋าเงินมัลติซิก ซึ่งมีลักษณะเป็นการทำธุรกรรมอย่างถูกต้องตามเครือข่าย นั่นหมายความว่าการย้อนธุรกรรมดังกล่าวอาจสร้างความซับซ้อนและข้อขัดแย้งในระบบอีเธอเรียม

ในขณะนี้ อุตสาหกรรมคริปโตต่างจับตาดูถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นจากเหตุการณ์แฮกไบบิต รวมถึงผลลัพธ์ที่อาจเกิดจากการเพิ่มการลงทุนในบิตคอยน์โดยไมเคิล เซย์เลอร์ ซึ่งอาจส่งผลต่อตลาดในวงกว้าง

<ลิขสิทธิ์ ⓒ TokenPost ห้ามเผยแพร่หรือแจกจ่ายซ้ำโดยไม่ได้รับอนุญาต>

บทความที่มีคนดูมากที่สุด

บทความที่เกี่ยวข้อง

ความคิดเห็น 0

ข้อแนะนำสำหรับความคิดเห็น

ขอบคุณสำหรับบทความดี ๆ ต้องการบทความติดตามเพิ่มเติม เป็นการวิเคราะห์ที่ยอดเยี่ยม

0/1000

ข้อแนะนำสำหรับความคิดเห็น

ขอบคุณสำหรับบทความดี ๆ ต้องการบทความติดตามเพิ่มเติม เป็นการวิเคราะห์ที่ยอดเยี่ยม
1